ธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการเเข่งขันว่ายน้ำชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย ประจำปี2563 ระหว่าง 23 -25 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ถือเป็นการจัดแข่งขันรายการที่3 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ที่สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันขึ้นภายในประเทศ ต่อจากการเเข่งขันว่ายน้ำมาราธอนที่ จ.ชลบุรี เเละรายการชิงเเชมป์ประเทศไทย ในรุ่นเด็กเล็ก เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ทั้งนี้สิ่งที่สมาคมฯอยากเห็นคือพัฒนาการของนักกีฬาดาวรุ่งในระดับเยาวชน เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติในอนาคต โดยรายการนี้ ( รายการที่ 3 ) ถือเป็นรุ่นเยาวชน เเข่งกัน 3รุ่น คือ 13-14ปี ,15-17ปี เเละรุ่นทั่วไป ซึ่งนักกีฬาที่ทำผลงานได้ดี จะมีโอกาสถูกเรียกตัวเข้าสู่ทีมชาติต่อไป
สำหรับผลงานของบรรดานักกีฬาที่ร่วมเเข่งขัน ในรายการชิงเเชมป์ประเทศไทยทั้ง2รายการ ต่างทำสถิติได้อย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะรายการจูเนียร์ ที่เพิ่งเเข่งขันจบไป มีการทำลายสถิติประเทศไทยถึง5รายการ หนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนจาก จ.มหาสารคาม ถือเป็นเรื่องดีที่เยาวชนในภูมิภาค สามารถยกระดับตัวเองในการแข่งขันได้ มั่นใจว่ารายการชิงเเชมป์ประเทศไทยในระดับซีเนียร์หรือเยาวชน ที่จะจบการแข่งขันในวันนี้ ( 25 ตุลาคม ) จะเห็นถึงผลงานของนักกีฬาที่เกิดขึ้นในหลายรายการ เพื่อนำไปสู่การยกระดับต่อไป