(20 กันยายน 2563) นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เปิดเผยว่า การชุมนุมที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล จากการต่อสู้อันยาวนาน คือ ได้ทวงคืนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ทำเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย นักศึกษาและประชาชนได้ร่วมกันทวงคืน จากอธิการที่รับใช้เผด็จการ
"เราได้ยึดคืนสนามหลวง หากมีใครมารื้อหมุดเราก็ปักใหม่ได้ อีกทั้งการรื้อหมุด ก็เหมือนการเหยียบหน้าประชาชน หากใครรื้อขอให้พบเจอแต่สิ่งอัปมงคล และเราพิสูจน์ให้สังคมไทยเห็นว่าการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตยและการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดแม้กระทั่งโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง"นายพริษฐ์กล่าว
ขณะเดียวกัน ก่อนนี้มีข่าวลือว่าตำรวจเตรียมใช้กระสุนจริง แต่วันจริงไม่มีอะไรสักอย่าง เพราะไม่มีความรุนแรงเหมือนการชุมนุมดังที่ผ่านมา ครั้งหน้าขอเบิ้มๆกว่าเดิม โดยในการสังเกตการณ์ประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ที่รัฐสภา กลุ่มประชาชนปลดแอกจะเป็นผู้จัดการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องหมายจับและคดีความหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า "ผมไม่รู้ ผมไม่สนใจเพราะหมายจับนี้ไม่มีความชอบธรรมใดๆ แต่แรก ถูกจับทุกหมายที่ผมโดน เป็นประจักษ์พยานของความเน่าเฟะของระบบการเมืองและความยุติธรรมไทย ถ้าคุณจะจับนักศึกษาคนหนึ่งเพียงเพราะเขามาเรียกร้องประชาธิปไตยก็เอาสิ ผมโดนมาแล้วหนึ่งรอบจะกลัวอะไรอีกสักรอบ"
เมื่อถามว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องล้มล้างการปกครอง นายพริษฐ์ กล่าวว่า 10 ข้อเรียกร้องดังกล่าว มีข้อใดที่ล้มล้างการปกครองบ้าง มีแต่บอกว่านี่คือการแก้วิกฤติศรัทธา