โดยรายงานทางด้านองค์กรการบินพลเรือนแห่งอิหร่าน (CAOI )สรุปทิ้งท้ายว่า "ถ้าความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่เกิดขึ้น เครื่องบินลำนี้คงไม่ตกเป็นเป้าโจมตี" ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า เครื่องโดยสารของยูเครน อินเทอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำ 176 คนนั้น เดินทางมาตามเส้นทางการบินปกติ แต่อุปกรณ์ป้องกันอากาศยานที่ยิงเครื่องบินลำนี้นั้น กลับเพิ่งถูกเคลื่อนย้ายมา และยังไม่ได้รับการตั้งค่าที่ถูกต้อง ส่งผลให้มันระบุเครื่องบินพลเรือนผิดเป็นวัตถุอันตราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กองยุทธภัณฑ์ขีปนาวุธ ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับศูนย์ควบคุมได้ และตัดสินใจยิงเครื่องบินลำนี้โดยไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ อิหร่านปฏิเสธอความรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ กระทั่งหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตกเผยแพร่หลักฐานหลายอย่างที่ชี้ให้เห็นความเกี่ยวข้องของอิหร่าน จนในที่สุดพวกเขาก็ออกมายอมรับว่ายิงเครื่องบินลำนี้เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขีปนาวุธร่อน
ทั้งนี้ เหตุกองทัพอิหร่านยิงเครื่องบินยูเครนตกเกิดขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ พุ่งถึงขีดสุด หลังสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศสังหารพลเอก คาเซม โซไลมานี่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่าน ที่กรุงแบกแดด ทำให้รัฐบาลเตหะรานตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ 2 แห่งในอิหร่าน ทำให้เกิดความกังวลว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะทำสงครามกัน