ดวงตาที่คอยจ้องมองแสงแดดที่ผ่านประตูเข้ามา รอว่าจะมีใครสักคนไหมที่เดินเข้ามาช่วยประคับประครอง ช่วยให้หลวงตารูปนี้ลุกขึ้นนั่งได้ วันนี้วันพระใหญ่ วันอาสาฬหบูชา ทุกคนต่างมุ่งหน้าทำบุญไหว้พระตามสถานที่ต่างๆ แต่ใครจะไปคาดคิดละครับ จะมีพระภิกษุ ที่เจ็บป่วย ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากขนาดนี้มา 15 ปีแล้ว ภายในกุฏิท้ายวัด ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัด นครปฐม... แบบนี้
มันก็15ปีแล้วที่หลวงตารูปนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในกุฎิท้ายวัดแบบนี้ชีวิตที่ต้องรอให้ญาติโยมที่ใจบุญเดินเข้ามาอุ้มประครองร่างกายมาหาข้าวหาปลาให้กิน
หากย้อนกลับไปในอดีต เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ปี 2523 หลวงตารูปนี้เคยมีอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์แล้วเกิดพลัดตกรถเมล์และถูกรถทับเข้าที่บริเวณขา ทำให้ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น หลวงตาท่านนี้ มีปัญหาเรื่องการเดิน แต่ก็ยังพอที่จะประคับประครองตัวเองได้ และเมื่อปี 2527 จึงตัดสินใจบวชเพื่อศึกษาพระธรรม
แต่หลังจากบวช และในปี 2548 อาการที่เป็นอยู่เริ่มทรุดตัว เริ่มเดินไม่ได้ และไม่สามารถออกกิจนิมนต์ ไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้เลย
จนปัจจุบันทุกวันนี้ หลวงตารูปนี้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากมากกับโรคอันพฤษที่เป็นนั้น เวลากลางคืน เมื่อล้มตัวลงนอน ก็ไม่สามารถประคับประครองตัวเองลุกขึ้นมาได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนกลางวัน ไม่ต้องพูดถึงเวลาร่างกายอ่อนเพลีย จะข่มตาให้หลับยังทำไม่ได้ เพราะถ้านั่งหลับแล้วเกิดเผลอล้มตัวนอนไปเท่ากับว่า หลวงตาจะลุกขึ้นเองไม่ได้ ต้องรอหาชาวบ้านหรือพลเมืองดีมาอุ้มประครองขึ้นมา เวลาจะไปไหนแต่ละมุมห้อง ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้างถัดยันพื้นไปข้างหน้า เวลาขับถ่าย ถ้าหลวงตา ยังประครองตัวเองในท่านั่งก็จะใช้ 2 มือยันพื้น คลานไปรูไม้กระดานแผ่นเก่าๆที่มุมห้องขับถ่าย แต่ถ้าล้มตัวนอนไม่มีใครมาประครองแล้วจะขับถ่ายนอนทับของเสียอยู่แบบนี้...
ทุกวันนี้เวลาจะทานข้าว จะมีชาวบ้านหรือพลเมืองดีนำข้าวมาให้หลวงตาท่านนี้ได้กิน ส่วนภายในห้อง ไม่ต้องพูดถึง กลิ่นเหม็นอับตลบอบอวน ทั้งห้อง...
หลังจากที่เมศได้รับทราบเรื่องราวและจะลงพื้นที่เพื่อไปเยี่ยมหลวงตารูปนี้ เมศได้โทรศัพท์หาหลวงตาเพื่อสอบถามรายละเอียด โทรไปประมาณ 6 สาย ยังไม่มีใครรับ เกือบจะสิ้นหวังแล้ว แต่ลองตัดสินใจโทรอีกครั้ง...
คราวนี้มีคนรับ ปลายสายพูดว่า คุณโยม อาตมาต้องขอโทษคุณโยมด้วยนะที่มารับสายโทรศัพท์ของคุณโยมไม่ทัน โทรศัพท์อยู่ห่างตัวอาตมาแค่ 2 คืบ แต่อาตมา คลานมารับไม่ไหวจริงๆ
เมศจึงได้นำสิ่งของกินของใช้ต่างๆและเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งถวายให้กับทางหลวงตารูปนี้เพื่อช่วยเหลือเอาไว้ใช้ตามเห็นสมควร..
วันนี้วันพระใหญ่ทุกคนต่างมุ่งหน้าทำบุญไหว้พระตามสถานที่ต่างๆแต่ใครจะไปคาดคิดละครับว่าจะมีพระภิกษุที่เจ็บป่วยใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากขนาดนี้มา15ปีแล้ว ภายในกุฏิหลังสุดท้ายที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม...
ขอขอบคุณชาวบ้านและพลเมืองดีที่ช่วยเหลือหลวงตานำข้าวนำน้ำช่วยเหลือหลวงตาตามกำลังครับและขอกราบขอบคุณทางวัดที่คอยดูแลช่วยเหลือหลวงตารูปนี้นะครับ
หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีผู้คนในโซเชียลเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากโดยหลายคอมเม้นต์รู้สึกสงสารหลวงตาอยากจะเข้าไปช่วยเหลือรวมถึงสอบถามถึงที่อยู่ว่าอยู่ที่วัดไหนและอยากให้หลวงตาได้เข้ารับการรักษาที่รพ.สงฆ์ด้วย