ต่อมาพนักงานส่งอาหารดังกล่าวได้ระบุว่าเป็นกฎของบริษัท ห้ามพนักงานขึ้นไปส่งอาหารบนห้อง ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็ไม่ยอมฟัง และยังเอะอะโวยวายไม่หยุด ก่อนจะให้พนักงานเอาอาหารวางไว้แล้วบอกว่า รีบไสหัวไป
ล่าสุด ต้นสังกัดของผู้หญิงที่โวยวายต่อพนักงานส่องอาหารคนดังกล่าวออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า กราบเรียน ลูกค้าและผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน
จากเหตุการณ์ตามคลิปที่โพสลงสื่อ social media ต่างๆ ซึ่งมีพนักงานของบริษัทฯ ใช้คำพูดและกริยาก้าวร้าวรุนแรงไม่เหมาะสม ทางบริษัทฯ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สถานการณ์ของโรคระบาดโควิด19 และการปิดพื้นที่ในแต่ละตำบลของจังหวัดภูเก็ต ทำให้ประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงพนักงานมีความเครียดสะสม ทำให้อาจเป็นสาเหตุสื่อพฤติกรรมออกไปในทางที่ไม่เหมาะสม
บริษัทฯ ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนและจะมีการตั้งคณะกรรมการ หารือวิธีการดำเนินการต่อไป ตามมาตรการและระเบียบของบริษัทฯ ขณะนี้บริษัทฯ ปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 14-30 เมษายน ตามคำสั่งปิดพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตบริษัทฯ กราบขออภัย และขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมาคะ
ภายหลังที่ได้ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ผู้คนต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงหญิงหัวร้อน ด่าพนักงานส่องอาหารว่าเอาบรรทัดฐานอะไรมาวัดว่าพนักงานมีความเครียดสะสมทำให้เป็นสาเหตุให้แสดงพฤติกรรมแบบนั้น สภาวะการณ์แบบนี้ใครๆก็เครียด แทบทุกบริษัทห้างร้านก็ปิดเหมือนกันไหม แต่ไม่มีใครแสดงพฤติกรรมเท่าพนักงานของคุณแน่นอน รบกวนพิจารณาใหม่นะคะ
โดยดราม่าเรื่องดังกล่าว ได้กระทบไปถึงศูนย์รถต้นสังกัดของหญิงหัวร้อนดังกล่าวว่าประกาศจะไม่ซื้อรถจากศูนย์นี้เลยทีเดียว