อิหร่านดับ 300 ราย หลังดื่มเมทิลแอลกอฮอล์หวังฆ่าเชื้อโควิด-19

จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ยังทะยานไม่หยุด โดยผู้ติดเชื้อเกิน721,800 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเกิน 33,950 คน โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 141,800 คนเสียชีวิตเกือบ 2,500 คน อิตาลีติดเชื้อเกิน 97,000 คน เสียชีวิตเกิน 10,700 คน สเปนติดเชื้อเกิน 80,000 คน เสียชีวิตเกิน 6,800 คน และฝรั่งเศส ติดเชื้อเกิน 40,000 คนเสียชีวิตเกิน 2,600 คน สหราชอาณาจักรติดเชื้อเกิน 19,500 คน เสียชีวิตเกิน 1,200 คน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเลเซียติดเชื้อ 2,470 คน เสียชีวิต 35 คน ฟิลิปปินส์ติดเชื้อ 1,418 คน เสียชีวิต 71 คน อินโดนีเซียติดเชื้อ 1,285 คน เสียชีวิต 114 คนบรูไนติดเชื้อ 126 คน เสียชีวิต 1 คน กัมพูชาติดเชื้อ 103 คน เมียนมาร์ติดเชื้อ 10 คนและลาวติดเชื้อ 8 คน

ก่อนหน้านี้คาเมเนอีกล่าวว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ส่งข้อเสนอให้ความช่วยเหลือแก่อิหร่านอย่างต่อเนื่อง ทว่าอิหร่านไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าวเนื่องจากรู้สึก "ไม่ไว้ใจ" สหรัฐฯ พร้อมเสริมว่าขณะนี้ชาวสหรัฐฯ ยังเผชิญกับภาวะขาดแคลนภายในประเทศเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน

ทั้งนี้ อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งจากโรคโควิด-19 โดยมียอดผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 20,000 รายอิหร่านเห็นตรงกับทฤษฎีคบคิด ที่แพร่บนสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อไม่นานมานี้ว่ากองทัพสหรัฐฯ อาจอยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสตัวใหม่ ที่ทหารนำเข้าไปในอู่ฮั่น ระหว่างเข้าร่วมมหกรรมกีฬาทหารโลก 2019 (Military World Games) ที่จัดขึ้นในมณฑลหูเป่ย ช่วง 18 -27 ตุลาคมทั้งรี้เกิดเรื่องน่าสลดใจ ชาวอิหร่านเสียชีวิต 300 คน และป่วยอีก 1,000 คน หลังดื่มเมทิลแอลกอฮอล์ เพราะหลงเชื่อข่าวลือว่า สามารถรักษาโรคโควิด-19 โดยอิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงมากกว่า 38,000 คน และเสียชีวิตมากกว่า 2,600 คน แต่เชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้

สื่อท้องถิ่น รายงานว่า กฎหมายอิหร่านห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ ทำให้คนเหล่านี้ไปซื้อจากพวกที่ขายเหล้าเถื่อน เพราะความตื่นตระหนก เมื่อทางการประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่ม 144 คน เมื่อวันศุกร์ และอาจเป็นเพราะความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า แอลกอฮอล์ล้างมือช่วยฆ่าไวรัสในร่างกายด้วยเช่นกัน