สำหรับในปีนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันประกอบไปด้วยผู้เล่นจากนานาประเทศทั้งหมด4 ทีม ได้แก่ ทีม มาเรนโก้ (Marengo),ทีมลา ฟามิเลีย (LaFamilia), ทีม เอธิโอเปียน แอร์ไลนส์ (EthiopianAirlines) และทีมเจ้าภาพไทย โปโล (ThaiPolo) โดยสองทีมสุดท้ายที่เข้าแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพในรอบชิงชนะเลิศ
ส่วนไฮไลท์ของงานที่สร้างสีสันและความสนุกสนานไม่แพ้การแข่งขันในสนามได้แกขบวนพาเหรดของครอบครัวคุณน้ำหอม สุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์เทอเรียสุนัขทรงเลี้ยง ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาที่จะมาพร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้จากชมรมยอร์คเชีย์เทอเรียคลับ
นอกจากนี้ยังคึกคักไปกับบรรยากาศของผู้ร่วมงานโดยเฉพาะเหล่าเซเลบริตี้ใจบุญที่ต่างแต่งกายสดใสสวยงามในธีมสีชมพูพร้อมกับแอสเซสเซอรี่ที่ขาดไม่ได้ คือหมวกใบเก๋หลากสไตล์โดยเมื่อถึงพิธีเปิดการแข่งขัน
นันทินี แทนเนอร์ นักกีฬาขี่ม้าโปโลหญิงคนแรกของไทยประธานจัดการแข่งขันฯ ได้ขี่ม้านำขบวนนักกีฬาเข้าสนามอย่างสง่างามพร้อมพาเหรดจากเหล่าเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทย ที่ร่วมขบวนด้วยและหลังจากนั้นในช่วงพักการแข่งขันหลังชักก้าที่ 2 คือประเพณีสตอมปิ้ง ดิวอทส์ (Stomping Divots) การย่ำหญ้าเพื่อกลบหลุมในสนาม และกลบรอยเท้าม้าจากการแข่งขันโดยเหล่าสุภาพสตรีทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างลงสนามร่วมกันย่ำหญ้าอย่างสนุกสนานและในปีนี้ได้ รถยนต์ McLaren แมคลาเรนสุดหรูนำทัพนักกีฬาโปโลหญิงคู่ชิงชนะเลิศลงสู่สนามในงาน"ควีนส์คัพ พิงค์ โปโล 2020"
พร้อมปิดท้ายด้วยพิธีมอบรางวัลแก่ผู้แต่งกายงดงามโดดเด่นชนะใจกรรมการได้แก่ รางวัล Best Dress Award ฝ่ายชายได้แก่ชาลิน หัตถกิจโกวิท และรางวัล Best Dress Award ฝ่ายหญิงได้แก่ พีรภัทรา เชาวลิต พร้อมด้วยรางวัล Best HatAward รางวัลที่มอบให้กับผู้สวมหมวกใบเก๋มีสไตล์ได้แก่ นริศา คุโบตะจากนั้นจึงเป็นการรับพระราชทานถ้วยควีนส์คัพ พิงค์ โปโล 2020 สำหรับทีมที่ชนะเลิศการแข่งขัน ซึ่งทีมลา ฟามิเลีย (LaFamilia) เอาชนะทีม มาเรนโก้ (Marengo)คว้าถ้วยรางวัลไปครองได้สำเร็จด้วยคะแนน 7 ต่อ 5 ปิดท้ายงานด้วยการแสดงพลุไฟสวยงามบนท้องฟ้าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืน
นับเป็นการแข่งขันขี่ม้าโปโลหญิงการกุศลที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ซึ่งนอกจากความสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นแล้วผู้ร่วมงานยังได้อิ่มเอมใจไปกับการได้ร่วมทำบุญช่วยเหลือสังคมทุกปีอีกด้วย