svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์" และพวกในคดีการเสียชีวิต "บิลลี่"

24 มกราคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันนี้ (24 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า มีหนังสือจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงวันที่ 23 ม.ค. 2563 ระบุเนื้อหาสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำเรียกร้องสิทธิในที่ทำกินชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2557

หนังสือที่อัยการส่งกลับมายังดีเอสไอ ระบุข้อหาที่ไม่สั่งฟ้อง 7 ข้อหา จาก 8 ข้อหา รวมทั้งข้อหา "ฆ่า" และ "กักขังหน่วงเหนี่ยว" มีเพียงข้อหา "การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่" เท่านั้น ที่ไม่ระบุในเอกสารแจ้งสั่งไม่ฟ้อง มีรายละเอียดดังนี้

สั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์" และพวกในคดีการเสียชีวิต "บิลลี่"

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรโดยมีเนื้อหา ดังนี้ ตามหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 13/2562 คดีระหว่าง นางสาวพิณนภา พฤกษาพรรณ กับพวกรวม 2 คน ผู้กล่าวหา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหา ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณา พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้ว มีความเห็น "สั่งไม่ฟ้อง" นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1, นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2, นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 ในข้อหาต่อไปนี้1. ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้2. ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
3. ข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น4. ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย5. ข้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป6. ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต7. ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งใดโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบทรัพย์ให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นส่วนนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องทั้ง 7 ข้อหาเช่นเดียวกับ 3 คนแรก แต่ในข้อหาที่ 6 และ 7 นายกฤษณพงษ์ถูกกล่าวหาในฐานเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่ใช่เจ้าพนักงาน จึงแยกออกมา


ในสำนวนคดีพิเศษที่ 13/2563 ที่ ดีเอสไอ ยื่นต่อสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อหาไปทั้งหมด 8 ข้อหา ดังนั้นจึงหมายความว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์และพวกเพียงข้อหาเดียว คือ ข้อหาร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งข้อหานี้ เป็นข้อหาที่ดีเอสไอนำสำนวนการสอบสวนมาจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายชัยวัฒน์ และพวกอ้างว่า หลังควบคุมตัวนายพอละจีไว้เพราะมีน้ำผึ้งป่าในครอบครอง แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว จึงถูกกล่าวหาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพราะไม่ส่งตัวนายพอละจีไปดำเนินคดีกับตำรวจสำหรับขั้นตอนต่อไป เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องกลับมาที่ ดีเอสไอ ต้องแจ้งความเห็นอย่างเป็นทางการพร้อมเหตุผลไปยังฝ่ายผู้เสียหาย คือ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ และทาง มึนอ ยังมีช่องทางต่างๆ ที่สามารถทำได้ คือยื่นขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด เพื่อขอให้สั่งฟ้องคดี และกรณีที่สั่งไม่ฟ้องขอให้ชี้แจงเหตุผลและข้อเท็จจริงที่สั่งไม่ฟ้องเป็นหนังสือ
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นหลังดีเอสไอ แถลงพบชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ในแหล่งน้ำใต้สะพานไม้ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบด้วยวิธี "ไมโตรคอนเดรีย ดีเอ็นเอ" ซึ่งเป็นวิธีการตรวจหาสารพันธุกรรมที่ถ่ายทอจากแม่สู่ลูก และพบว่ามีสารพันธุกรรมตรงกับแม่ของบิลลี่ จึงสรุปว่าเป็นชิ้นส่วนของบิลลี่ เพราะเป็นลูกคนอื่นๆ ยังมีชีวิตอยู่ทุกคน ทำให้ดีเอสไอเดินหน้าหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะแจ้งข้อหานายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน ใน 8 ข้อหา ส่งให้สำนักงานอัยการคดีพิเศษพิจารณา ในคดีพิเศษที่ 13/2562

สั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์" และพวกในคดีการเสียชีวิต "บิลลี่"


สั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์" และพวกในคดีการเสียชีวิต "บิลลี่"

logoline