ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.ดูแลค่าเงินบาทต่อเนื่อง ดำเนินมาตรการเพื่อเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น ผ่อนคลายกฎเกณฑ์กำกับดูการแลกเปลี่ยนเงินเอื้อให้การนำเงินออกไปลงทุนทำได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงได้มีการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไป ผ่านการเข้าไปซื้อเงินดอลลาร์และขายเงินบาท ส่งผลให้เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเงินทุนสำรองฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ หาก ธปท. ไม่ได้เข้าไปดูแล เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าที่เห็นในปัจจุบัน
ปัจจุบันก็ยอมรับว่ามีความกังวลต่อสถานการณ์ค่าเงินบาท และยังคงจับตาอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็พร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น ซึ่ง ธปท.ได้เตรียมพร้อมแล้ว เป็นยาแรง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ต้องดูความจำเป็นจริงๆ
ที่สำคัญอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาครัฐ และธปท. เพราะปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า เป็นเพียงอาการที่สะท้อนจากปัญหาเชิงโครงสร้าง การแทรกแซงค่าเงิน หรือยโยบายอื่น ที่หวังผลระยะสั้นเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่ช่วยแก้ปัญหาแค่ปลายเหตุ เพราะการค้ายังเกินดุลต่อเนื่องแต่การออกไปลงทุนหลักทรัพย์ในต่างประเทศยังมีน้อย ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนใช้โอกาสจากค่าเงินที่แข็งค่าลงทุนนำเข้าเครื่องจักร หรืออุปกรณ์จากต่างประเทศ เพราะจะมีต้นทุนที่ถูกลง