svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กแดง" มาเอง! "ถอดเครื่องแบบ..ใส่สูท" เข้าพบ "กมธ."

21 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กแดง" ยกเลิก กำหนดการบินตรวจชายแดนไทย-เมียนมา บินกลับมา สภาฯ พบ กมธ.ความมั่นคงฯ ด้วยตนเอง หลังส่ง "บิ๊กนัย" มาแทน แต่ กมธ. ยันต้อง "ผบ.ทบ." เท่านั้น

แม้ว่า เมื่อช่วงเช้า กองทัพบก ได้ส่งหนังสือ ถึงคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สื่อมวลชน
โดยระบุ ตามที่ มีหนังสือถึงรมว.กลาโหมเพื่อเชิญพล.อ.อภิรัชต์คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องความมั่นคงนั้น นับเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นการเพิ่มความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง กับคณะกรรมาธิการ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ทิซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของชาติ

"บิ๊กแดง" มาเอง! "ถอดเครื่องแบบ..ใส่สูท" เข้าพบ "กมธ."


แต่เนื่องจากพล.อ.อภิรัชต์ติดภารกิจจึงได้มอบหมายให้พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และคณะเป็นผู้แทนประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องความมั่นคง
เพราะพล.อ.สุนัย เป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพบกที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องกิจการชายแดนและการปฏิรูปประเทศ
"กองทัพบกหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐจะได้รับประโยชน์จากการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความมั่นคงในครั้งนี้และให้เกียรติกับคณะผู้แทนของกองทัพบกในการเข้าร่วมประชุมนี้ด้วย"หนังสือของ ทบ.ระบุ

ทั้งนี้พล.อ.อภิรัชต์เดินทางไปตรวจเยี่ยมที่กองพลทหารราบที่9 กาญจนบุรี แต่เมื่อ ทางกมธ. ยืนยันว่า ตัองให้ ผบ.ทบมาเองเท่านั้นพล.อ.อภิรัชต์จึง ยกเลิกภารกิจ เยี่ยม หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ที่สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แล้วเดินทางกลับ กทม. ไปพบ กมธ. ด้วยตนเอง

"บิ๊กแดง" มาเอง! "ถอดเครื่องแบบ..ใส่สูท" เข้าพบ "กมธ."

เมื่อเวลา 12.00 น. ภายหลังการประชุมชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ท.พงศกร รอดชมพู่ เป็นประธาน กมธ.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นบรรยากาศและนิมิตหมายที่ดีที่ประธาน กมธ.ได้เชิญตนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความมั่นคงเพราะมีหลายประเด็นที่ได้แลกเปลี่ยนกัน ไม่เรียกว่าปรับความเข้าใจ ความจริงเราเข้าใจบทบาทหน้าที่กันอยู่แล้วซึ่งมีข้อห่วงใยหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพ ตนก็จะได้นำข้อคิดเห็นต่างๆ นำไปพัฒนาเป็นข้อมูล งานตั้งใจที่จะมาทั้งที่มีภารกิจที่กาญจนบุรีตรวจเยี่ยม แต่ก็รีบบินกลับมาเนื่องจากเห็นความสำคัญของสภา และฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติที่จะทำงานร่วมกันเพื่อเดินไปด้วยกันให้ได้

เมื่อถามถึงประเด็นที่มีการหารือในที่ประชุมเกี่ยวกับเรื่องอะไร?พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีการเสนอความเห็นเรื่องภาคใต้ เรื่องเทคโนโลยี่ที่จะนำเข้ามาใช้ เรื่องยาเสพติด ซึ่ง กมธ.ทุกคนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีมุมมองและประสบการณ์โดยเฉพาะประธานก็เคยเป็นสมาชิกสภาปฏิรุปแห่งชาติ (สปช.) มีความรู้หลายอย่างที่สอดคล้องกันหลายประเด็น อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่ต้องมาชี้แจงอีก แต่จะส่งที่ปรึกษามาร่วมประชุมครั้งต่อไปเนื่องจากประธานกรรมาธิการบอกว่าอยากให้กองทัพส่งที่ปรึกษามาอยู่กับ กมธ. เป็นเรื่องที่ดีจะได้เข้าใจว่า กมธ.คุยอะไรจะได้ส่งข่าวให้กองทัพ

เมื่อถามว่าการชี้แจงวันนี้ทำให้เข้าใจพรรคการเมืองมากขึ้นหรือไม่พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นักข่าวถามไม่ตรงเพราะตนไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองใดบนเวทีเลย แต่พูดไปตามบทบาทหน้าที่ เช่นเดียวกัน ส.ส.และ กมธ.

"ทุกคนท่านมีบทบาทหน้าที่ บางครั้งหน้าที่กำหนดอารมณ์ออกมาหลายอย่าง แต่ผมก็มีบทบาทหน้าที่จะรักษาความมั่นคงและเป็นเสียงให้กับประชาชน บางครั้งหลายท่านที่เห็นในทีวีท่านวิจารณ์ดุเดือด แต่ว่าวันนี้มาเจอก็คนละรูปแบบ ส.ส.ก็เช่นเดียวกัน ว่าผมดุ แต่มาเจอตัวจริงไม่เป็นอย่างนั้นเลย ผมว่าเป็นแนวทางที่ดี ถ้าไม่ดีผมคงไม่มา"พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว


พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีชื่อว่าอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่า คิดว่าเราอยู่บนพื้นฐานที่ว่าเป็นไปได้ไม่ได้ ด้วยสถานะ ภาวะต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะตนยังรับราชการ และเป็นสมาชิกวุฒิสภา และตามรัฐธรรมแล้วตนไม่สามารถเป็นไปตามข่าวได้อยู่แล้ว แต่ผู้ใหญ่ที่พูดถึงเพราะมีการป้อนคำถามไปอาจจะเป็นคำตอบต่อเนื่อง อย่าไปซีเรียสเรื่องพวกนี้

เมื่อถามว่าในอนาคตจะเป็นไปได้ไหมที่จะลงเล่นการเมือง?พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า "ผมเป็นเพื่อนกับนักการเมืองดีกว่า ผมไม่เล่นการเมือง ผมไม่เล่นกับนักการเมือง"

ด้าน พล.ท.พงศกรกล่าวเสริมว่า ต้องขอขอบคุณท่าน ผบ.ทบ.ที่ได้มาในวันนี้ สิ่งที่เราแลกเปลี่ยนกันก็เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และหลายเรื่องตั้งข้อสังเกตทั้งสองฝ่ายจะได้นำไปปฏิบัติ แต่หลายเรื่องก็เป็นความลับพูดไม่ได้ สิ่งที่พบกันในวันนี้คือการร่วมมือกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปในระยะยาวโดยเฉพาะด้านความมั่นคง

logoline