สำหรับผู้ที่เชื่อตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าว ได้บอกถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนเคยชินกับสิ่งที่เคยได้ โดยร้อยละ 32.76 บอกว่าเกิดจากประชาชนเคยตัวไม่รู้จักปรับตัวช่วยเหลือตัวเอง ในขณะที่ ร้อยละ 24.38 บอกว่าต้นเหตุมาจากนโยบายประชานิยมของทุกรัฐบาล หากโยงผลข้างต้นมาสรุปจะได้ใจความว่าในความรู้สึกของประชาชน เศษฐกิจไทยกำลังมีปัญหา และ รัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนพึ่งตัวเองได้
สรุปแล้วเศรษฐกิจไทยปัจจุบันแย่ขนาดนั้นจริง ๆ หรือเป็นแค่ความรู้สึกของผู้คน
ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็พยายามปลอบใจประชาชนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ถดถอย เพราะการขยายตัวของเศรษฐกิจในแต่ละไตรมาสยังเติบโตเป็นบวก ไม่ได้ติดลบ เพียงแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าที่คาดไว้เท่านั้น แต่ทำไมเวลาไปถามพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดหรือไปถามมนุษย์เงินเดือนอาจจะได้คำตอบว่าเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนคิดไปเองหรือเปล่าหรือรัฐบาลผิดพลาดในการเก็บข้อมูล
สมมุติว่าถ้าเราเชื่อตัวเลขจากการเก็บข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรมของทางรัฐบาลว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ติดลบ ก็จะมีคำถามกลับมาอีกมากมายว่า ผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจไปอยู่ที่ใคร คนไทยทุกกลุ่มได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมจากรัฐบาลหรือไม่ นโยบายรัฐที่ผ่านมาสามารถทำให้ประชาชนดำรงชีพอยู่ได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่หวังผลทางการเมือง ตัวอย่างคำถามเหล่านี้ต้องการคำตอบแบบภาษาชาวบ้านที่เข้าใจง่าย ๆ และไม่ใช่คำตอบแบบขายฝันไปวัน ๆ