svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ปัจจัตตัง" เหล็กไหล จริง-หลอก ดูออกยัง?

28 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวของทรัพย์สิน หนี้สิน ของบรรดานักการเมืองไทย ส.ส.เก่า-ใหม่ ที่นำออกมาแสดงตามระเบียบ ไม่มีอะไรเร้าใจเท่ากับเรื่องราวของ "เหล็กไหล" ที่ "คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล"ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินว่าครอบครองเหล็กไหลตีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท !!

อย่าว่าแต่ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่มีอันหูผึ่งรีบแจ้นไปฟ้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจดูว่าเป็นการสร้างมูลค่าอำพรางหรือไม่

แต่เราก็ยังตาลุกวาวกันเลย ว่าเหล็กไหลที่ได้ยินมานานว่าเป็นของดีของศักดิ์สิทธิ์ จนคนดังๆ คนใหญ่คนโต ทหาร ตำรวจ มีในครอบครองกันเพียบนั้นมีราคาค่างวดขนาดนี้เชียวหรือ ? แล้วที่ว่าจริงที่ว่าดีนั้น มันไปยังไงมายังไง

เล่นแร่

ข้อมูลทั่วไประบุว่า เหล็กไหลเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกRemadeส่วนในมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า"บือซีรีเละ"เป็นแร่เหล็กบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ

เหล็กไหลมีมากมายหลายชนิด แต่ที่แพร่หลายที่สุดนั้นจะฝังตัวอยู่ในถ้ำ มีลักษณะสีดำคล้ายนิล ว่ากันว่าลนไฟให้ยืดได้

ความเชื่อในชนชาติทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือภูมิภาคโซนบ้านเราและเพื่อนบ้านนี่แหละ ว่าตรงกันว่าการจะนำเหล็กไหลออกมา ไม่ใช่นำออกมาได้ง่ายๆ



ต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหล แล้วใช้ไฟลนเหล็กไหลถึงจะยืดออกมากินน้ำผึ้ง ไปพร้อมกับเล่นไฟด้วย จากนั้นก็ลนไฟไปกระทั่งเหล็กไหลยืดออกมาเรื่อยๆ จนบางเท่าเส้นด้ายถึงจะตัดขาด !

แถมยังว่า การไปตัดเหล็กไหลนั้นคนธรรมดาอย่างเราๆ อย่าได้หวัง เราไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้ เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา ฤาษี พญานาค หรือยักษ์รักษาอยู่ ต้องเป็นคนดีมีบุญ วิชาอาคมแกร่งกล้าพอถึงจะไปเอาได้

แค่เกริ่นพอสังเขป ยังทำเอาครางฮือขนาดนี้ พอลองหาข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ก็มีคำอธิบายอยู่บ้าง เช่นว่า เหล็กไหล ก็คือโลหะหรือวัสดุอื่นที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ แต่ก่อนจะเป็นเหล็กไหลได้ต้องเป็นเหล็กเหลวเสียก่อน

"ปัจจัตตัง" เหล็กไหล จริง-หลอก ดูออกยัง?


โดยจะเหลวมากเหลวน้อยขึ้นอยู่กับความร้อนที่ใส่เข้าไป เมื่อเกิดการหลอมเหลวดีแล้วก็จะไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก มิได้มีคุณวิเศษใดๆ มีแต่เพิ่มความทุกข์ความกังขาให้แก่เจ้าของที่ครอบครองมากกว่า

ทั้งนี้นอกจากที่พบโดยธรรมชาติอย่าง อุกกาบาต หรือซิลิเกตจากใต้โลก (แร่ที่ซิลิกอนและออกซิเจนรวมตัวกัน) แล้วยังมีที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น เช่น ปรอท, แกลเลียม ที่หลอมเหลวได้ในอุณหภูมิห้อง หรือโลหะผสมอื่นๆ

จริงอยู่ที่ลึกๆ ในใจ หลายคนก็ตั้งคำถามเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นความแปลกตาของเหล็กไหลที่มีหลากหลายระดับ กับการสร้างสรรพคุณความเชื่อตามเข้าไป ก็อดที่จะคล้อยตามไปกับความรู้สึกขลังที่บังเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว




ต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหล แล้วใช้ไฟลนเหล็กไหลถึงจะยืดออกมากินน้ำผึ้ง ไปพร้อมกับเล่นไฟด้วย จากนั้นก็ลนไฟไปกระทั่งเหล็กไหลยืดออกมาเรื่อยๆ จนบางเท่าเส้นด้ายถึงจะตัดขาด !

แถมยังว่า การไปตัดเหล็กไหลนั้นคนธรรมดาอย่างเราๆ อย่าได้หวัง เราไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้ เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา ฤาษี พญานาค หรือยักษ์รักษาอยู่ ต้องเป็นคนดีมีบุญ วิชาอาคมแกร่งกล้าพอถึงจะไปเอาได้

แค่เกริ่นพอสังเขป ยังทำเอาครางฮือขนาดนี้ พอลองหาข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ก็มีคำอธิบายอยู่บ้าง เช่นว่า เหล็กไหล ก็คือโลหะหรือวัสดุอื่นที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ แต่ก่อนจะเป็นเหล็กไหลได้ต้องเป็นเหล็กเหลวเสียก่อน





โดยจะเหลวมากเหลวน้อยขึ้นอยู่กับความร้อนที่ใส่เข้าไป เมื่อเกิดการหลอมเหลวดีแล้วก็จะไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก มิได้มีคุณวิเศษใดๆ มีแต่เพิ่มความทุกข์ความกังขาให้แก่เจ้าของที่ครอบครองมากกว่า

ทั้งนี้นอกจากที่พบโดยธรรมชาติอย่าง อุกกาบาต หรือซิลิเกตจากใต้โลก (แร่ที่ซิลิกอนและออกซิเจนรวมตัวกัน) แล้วยังมีที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น เช่น ปรอท, แกลเลียม ที่หลอมเหลวได้ในอุณหภูมิห้อง หรือโลหะผสมอื่นๆ

จริงอยู่ที่ลึกๆ ในใจ หลายคนก็ตั้งคำถามเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นความแปลกตาของเหล็กไหลที่มีหลากหลายระดับ กับการสร้างสรรพคุณความเชื่อตามเข้าไป ก็อดที่จะคล้อยตามไปกับความรู้สึกขลังที่บังเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว




"ปัจจัตตัง" เหล็กไหล จริง-หลอก ดูออกยัง?


หรือที่ว่าเคยมีคนเข้าไปตัดเหล็กไหลแล้วเอามือไปจับเหล็กไหล เกิดมีอาการคล้ายถูกฟ้าผ่าหรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูด เป็นต้น

ขณะเดียวกันหากใครได้ครอบครอง โดยเฉพาะถ้านำเหล็กไหลไปฝังไว้ตามร่างกาย ผู้นั้นจะหนังเหนียว ทั้ง มีด ปืน หรือระเบิดก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่าดินปืนทุกชนิดไม่สามารถจุดติดได้ในอาณาเขตที่มีเหล็กไหลอยู่




ได้มาครอบครองยังไม่พอ ยังมีวิธีดูแลอีก โดยเรียกว่า "วิธีเลี้ยงเหล็กไหล" หรือ "บูชาเหล็กไหล" ว่ากันว่า ถ้าเลี้ยงดีเหล็กไหลจะงอกขึ้น ทั้งสีเปลี่ยนและไหลออกมา เลี้ยงไม่ดีจะตายได้ หรือหนีได้ !!??

และจะต้องมีพิธีอัญเชิญเหล็กไหลเข้าบ้าน ด้วยขั้นตอนต่างๆ เยอะแยะมากมายแล้วแต่จะสังกัดสำนักไหน ส่วนที่ว่าเหล็กไหลนั้นกินน้ำผึ้ง ก็ต้องมีคาถาถวายน้ำผึ้งด้วยที่ว่า "นะอึด โมอึด โธอัด นะอัด" 3 จบ

ว่ากันว่าการบูชาเพิ่มฤทธิ์เดชให้แก่เหล็กไหล โดยในวันพระ สวดคาถาแล้วให้นำเหล็กไหลมาอาบแสงจันทร์ในคืนเพ็ญเต็มดวง เหล็กไหลจะเจริญงอกงามสีสวยมีพลังอานุภาพมากขึ้น


ปั่นราคา?

เคยมีกระทู้ในพันทิปถามว่า"เหล็กไหลกินน้ำผึ้งหรือครับ?"คำตอบมีหลากหลาย ตั้งแต่ "เหล็ก-เหลว-ไหล" ไปจนถึง "เหล็กไหลชอบน้ำผึ้ง แต่ไม่ได้ซด กินแค่ความหวาน เหลือแต่น้ำจืดๆ ทิ้งไว้"




แต่ความจริงที่รู้กันคือเหล็กไหลไม่ใช่สิ่งแรก และสิ่งเดียวที่ออกมาสร้างมุมมองสองแพร่งให้แก่ผู้คน ระหว่าง"พลังที่แท้จริง"หรือ"ความหลงงมงาย"ดีไม่ดีอาจเป็น"ความเชื่อ"ด้วยซ้ำที่อยู่ยงมาช้านาน เป็นกระแสที่เผลอๆ จะทรงพลังยิ่งกว่าตัวเหล็กไหลเองเสียอีก




ยิ่งมาถึงวันนี้ ในมุมความเชื่อเรื่องเหล็กไหล ไปไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับตัวอย่างล่าสุดของคนดังฟากการเมือง อย่าง"คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล" ต้องบอกว่า ถือเป็นผู้นำทางความคิดคนหนึ่ง

วันนี้เขาพูดเต็มปากว่าเหล็กไหล หรือโคตรเหล็กไหลของเขานั้น มีคนมาขอซื้อในราคาเกือบ 1,000 ล้านบาทจริง แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนตีราคาเอง แต่คนที่ชื่นชอบในเรื่องนี้มาติดต่อขอบูชา

ยิ่งเมื่อสืบค้นต่อไป ยังพบว่าผู้คนทำการเปิดขาย เปิดประมูลเหล็กไหลในครอบครองกันอยู่ก่อนแล้วมากมาย แม้แต่ในแอพสำหรับE-Commerceสินค้าออนไลน์ ก็มีเพียบ ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น




แต่ถ้าสืบค้นต่อไปอีก ก็ยังมีข่าวสารในทางตรงข้าม เช่นช่วงเมษายนที่ผ่านมา มีข่าวทางโซเชียลเกี่ยวกับชายที่มาให้หมอผ่าตัดเอาเหล็กที่ฝังไว้ในตัวออก เพราะมีอาการอักเสบโดยเป็นภาพเหล็กสองเส้นเล็กๆ วางอยู่บนผ้าก๊อซสีขาว

หรือไกลว่านั้นเคยมีข่าวใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม"แก๊งต้มตุ๋นเหล็กไหล" หลอกเอาเงินจากประชาชน รวมถึงตำรวจทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพล มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท โดยขบวนการนี้มีนายเสือเป็นเจ้าสำนัก อ้างตัวว่าเป็น "พ่อปู่สุทัศน์" มีเวทมนตร์แข็งกล้า จนถึงขั้นเรียกเหล็กไหลได้

"ปัจจัตตัง" เหล็กไหล จริง-หลอก ดูออกยัง?

ใจกลางความเชื่อ

อันว่าเครื่องรางของขลัง เราพอจะรู้มาบ้างว่าจุดเริ่มต้น เพราะสมัยก่อนมนุษย์ไม่เข้าใจเรื่องของธรรมชาติและภัยธรรมชาติ หลายสิ่งจึงยังเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์รุ่นก่อน เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ

มนุษย์จึงหาวิธีแก้ไข โดยนอกจากวิทยาศาสตร์-วิทยาการต่างๆ ก็หนีไม่พ้นบรรดาเครื่องยึดเหนี่ยวไว้ปกป้องคุ้มครองเช่น ศาสนา, ไสยศาสตร์ และความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้า ไปจนถึงเครื่องราง ของขลังอย่างเหล็กไหลก็เช่นกัน




สุดท้ายเมื่อหันไปถามไถ่ผู้เชี่ยวชาญ อย่าง"เอก อัคคี"คอลัมนิสต์พระเครื่องและนักเขียนคนดังได้ให้ความเห็นไว้ว่าเท่าที่ศึกษามา ก็พอจะรับรู้ได้ว่ามีอยู่จริง เป็นเครื่องรางที่เรียกว่าเป็น "ทนสิทธิ์" คือ วัตถุธาตุตามธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในตัวเอง

"แต่หาของแท้ยาก เช่นเดียวกับเหล็กไหล ที่ในอดีตมีคนถูกหลอกกันมากมาย เพราะยากต่อการพิสูจน์ว่าอะไรคือของจริง ของปลอม เพราะต่างก็เต็มไปด้วยเรื่องเล่าแต่ในภาษาของนักสะสมพระเครื่องหรือเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาเรียกว่า "ปัจจัตตัง" คือ ต้องสัมผัสรับรู้ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น เหมือนคนเจอผีหลอกนั้นแหละยากต่อการอธิบาย"

ส่วนที่คนสนใจกับเรื่องราคา คอลัมนิสต์คนดังระบุว่า ราคาเช่าหาก็สุดแท้แต่จะเรียกร้องกัน"มันไม่มีราคากลาง ราคามาตรฐานอะไรหรอก อยู่ที่ความพอใจ และขึ้นอยู่กับว่าใครขาย ใครซื้อ มีความน่าเชื่อถือต่อกันแค่ไหน ที่เรียกว่าโคตรเหล็กไหล สังคมก็ต้องพิจารณากันเอาเองว่า มันสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะใครจะจะตั้งราคาแพงเท่าไรก็ได้ แต่คำถามคือ ขายได้จริงหรือไม่ ถ้าขายได้ในราคานั่นจริงก็ถือว่าจริง ถ้าขายไม่ได้จริง เขาก็ถือว่า ราคาคุย...เท่านั้นเอง"

ขณะที่ในแวดวงเซียนพระทั่วไป ก็เหมือนจะขานรับแนวคิดนี้ อย่าง "ฉ่อย ท่าพระจันทร์"เซียนพระอาวุโส ก็ออกมาให้ความเห็นในรายการNEWS TALKทางNews 1ยืนยันว่าในวงการพระไม่มีการซื้อขายเหล็กไหล ไม่สนใจด้วยซ้ำ และไม่อยากคุยให้เสียเวลา เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ !

เอวังด้วยประการฉะนี้...




รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 28-29 ก.ย. 62

logoline