ศาลตัดสิน ประหาร "นวัธ" ส.ส.เพื่อไทย จ้างวานฆ่าอดีตปลัดอบจ.

รายงานแจ้งว่า อธิบดีอัยการภาค 4 ได้ลงนามในคำสั่งฟ้องนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส. ในข้อหาจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น เมื่อเดือนเมษายน 2560 โดยได้มีการลงในสาระบบงานของสำนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างขั้นตอนที่อัยการเจ้าของคดีจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวน ให้นำตัวนายนวัธ มารับทราบข้อกล่าวหาตามระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เดินทางมารับข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนก็จะได้ขออนุมัติต่อศาลให้มีการออกหมายจับต่อไป
โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2556 มีคนร้ายได้ก่อเหตุสังหารนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก หมู่บ้านจอมพล อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 5 คน มี ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล อดีต ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หนองเรือ ขอนแก่น (จำเลยที่1) พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม อดีตรองผกก. (ป) สภ.หนองเรือ (จำเลยที่ 2) นายประพันธ์ ศรีพิลัย (จำเลยที่ 3) นายบุญช่วย จูงกลาง (จำเลยที่ 4) และนายปิยะพงษ์ มีกำปัง (จำเลยที่ 5)
ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 พิพากษาลงโทษ พ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 จำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน และยกฟ้อง ด.ต.วิระศักดิ์ ชำนาญพล จำเลยที่ 1 นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 นายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5
โดยมีข้อวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 ได้ลงไปพูดคุยกับนายสุชาติ ผู้ตาย ก่อนจะได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ร่างนายสุชาติอีกหลายนัด เป็นการไตร่ตรองหรือเตรียมการในการที่จะมายิงผู้ตายไว้ก่อนหรือไม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่จำเลยขับรถมาขวางและลงมาพูดคุยกับผู้ตายก่อน อาจจะไม่ใช่เป็นลักษณะการเตรียมการที่จะมายิงผู้ตายให้ถึงแก่ชีวิตจึงยกประโยชน์ให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาโดยจำเลยทั้งหมดได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาล
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ เป็นให้ลงโทษจำเลยทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และให้ลงโทษประหารชีวิตทั้งหมด แต่เนื่องจาก ด.ต.วีระศักดิ์ จำเลยที่ 1 นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 นายปิยะพงษ์ มีกำปัง จำเลยที่ 5 ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาลจึงลดโทษเป็น 1ใน 3 เป็นให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต มีเพียงพ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ได้ให้ลงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา
ขณะที่ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปยังนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 8 ขอนแก่น ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายสุชาติด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "จ้างวานฆ่า" นายสุชาติ โคตรรทุม อดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น ด้วยอีกคดีหนึ่ง โดยในเวลาต่อมา นายนวัธ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้รับการประกันตัวออกไปสู่คดี จนล่าสุดอธิบดีอัยการภาค 4 ได้มีคำสั่งฟ้องในที่สุด
-----

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.ย. 62 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษาคดีจ้างวานฆ่า นายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก บ้านเลขที่ 198/45 หมู่บ้านจอมพล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 นาย นวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 ขอนแก่น เป็นจำเลยในคดีจ้างวานฆ่า โดยนายนวัธ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดขอนแก่นเวลา 08.47 น. โดยรถยนต์ส่วนตัวก่อนจะเดินขึ้นไปยังบนห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ที่ 7 โดยไม่มีใครให้ข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชน ขณะที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่ศาลด้วยเช่นกันพล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.ภ.4 เจ้าของคดี กล่าวว่า จากคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน มี ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1 พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม รอง ผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 2 นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน ต่อมาศาลจ.ขอนแก่นได้ออกหมายจับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 ขอนแก่น ในข้อหาความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 61
วันที่ 29 ต.ค.57 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน โดยจำเลยทั้ง 5 คือ 1.ดาบตำรวจวีระศักดิ์ ชำนาญพล 2.พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม 3.นายประพันธ์ ศรีวิลัย 4.นายบุญช่วย จูงกลาง และ 5.นายปิยะพงษ์ มีกำบัง ส่วนผู้ตายคือนายสุชาติ โคตรทุม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยพิพากษาให้ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน
ด้วยเหตุแห่งพฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตายมิใช่ลักษณะเตรียมพร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าจะเป็นการตั้งใจ เพราะถ้าเช่นนั้นต้องมีการลงมือทันที แต่ยังมีการพูดคุย มีการทำร้ายร่างกายก่อนลงมือยิง ดังนั้นจึงพิพากษาจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์ เป็นเหตุให้บรรเทาโทษให้ 1 ใน 4 รวมกับความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 3 รวมโทษจำคุก37 ปี 14 เดือน 30 วัน ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4 และ 5 ซึ่งให้ปฏิเสธตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่า รู้มาก่อนว่าจำเลยที่ 2 และ 3 จะมาฆ่าผู้ตาย จึงให้ยกฟ้อง โดยให้ขังระหว่างอุทธรณ์"สำหรับการตัดสินของศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิตนายนวัธ เตาะเจริญสุข มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) จ้างวานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยสารมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยจ้างวานให้บุคคลทั้ง 4 ค่ะ นายสุชาติโคตรทุมโดยมีพยานหลักฐานต่างๆ พยานหลักฐานยืนยันทางพยานบุคคล และการโทรศัพท์โดยปราศจากข้อสงสัยจึงตัดสินลงโทษประหารชีวิต"