svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

มารู้จัก "GHB" ภัยมืด "สายปาร์ตี้"

19 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีเหตุการณ์คดีพริตตี้สาวลัลลาเบล หรือ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ ที่เสียชีวิตปริศนาอยู่บริเวณล็อบบี้คอนโดดัง หลังจากที่พริตตี้บอยน้ำอุ่น หรือนายนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร อุ้มมาวางไว้ จากข้อสันนิษฐานที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของ ลัลลาเบล คืออาจถูกมอมยา GHB หรือ ยาเสียสาว

เว็ปไซต์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า รศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เขียนรายงานอธิบายเกี่ยวกับยา GHB หรือ ยาเสียสาว ไว้ว่า GHB หรือชื่อเต็มๆ คือ gamma-Hydroxybutyric (แกมมา ไฮดรอกซี บูเทอริก) ในชื่อภาษาไทยเรา มักจะเรียกว่า "ยาเสียสาว" หรือตอนนี้อาจจะต้องเพิ่มว่าเป็น "ยาเสียหนุ่ม" ด้วย ยาชนิดนี้มีผลออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกตื่นตัว รู้สึกสนุก รวมถึงการที่อยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย ปัจจุบันพบการระบาดใช้ในสถานบันเทิงต่างๆ มากมาย

ในทางการแพทย์เราใช้ยาชนิดนี้อยู่บ้างในการวางสลบ การผ่าตัด การทำคลอด รักษาโรคบางโรค เช่น โรคง่วงหลับ โรคพิษสุราเรื้อรัง มีการควบคุมการใช้ที่เข้มงวดโดยแพทย์ แต่ยาตัวนี้ถูกถอนออกจากบัญชียาตั้ง แต่ปี 2533 แล้ว

ยา GHB มีทั้งชนิดเม็ด ชนิดผง หรือชนิดเหลว ที่นิยมใช้กันจะเป็นลักษณะเหลวใส เพราะใช้ง่าย มีรสเค็มเล็กน้อยกลมกลืนกับเครื่องดื่ม ในตลาดมืดจะเรียกว่า Liquid X หรือ Liquid E สามารถผสมกับเครื่องดื่มได้โดยที่เราไม่รู้ว่ามีส่วนผสมของยาชนิดนี้อยู่

อาการเมื่อเราโดนยา GHB จะแตกต่างกันไปตามขนาดยาที่ได้รับ หากได้รับปริมาณมากๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้เกิดการเสียชีวิตได้
ผลอาการจากยา GHB ที่พอจะสรุปได้ มีดังนี้
1. หากได้รับปริมาณยาไม่มาก ช่วง 5-10 นาทีแรก จะมีอาการมึนงง คลื่นไส้ อาเจียน เคลื่อนไหวลำบาก
2. หากได้รับปริมาณยาขนาดสูง อาจทำให้เกิดการกดการทำงานของสมอง กดการทำงานของระบบหายใจ หมดสติ หรือเกิดการเสียชีวิตได้
3. หากได้รับร่วมกับยาเสพติดอื่นๆ หรือแอลกอฮอล์ ก็จะทำให้เกิดผลเสียที่มากกว่าหลายเท่า

การป้องกันและหลีกเลี่ยง มีดังนี้
1. การป้องกันทำได้ยาก เพราะเราจะสังเกตยากว่ามีส่วนผสมของยา GHB หรือไม่ในเครื่องดื่ม
2. ไม่ไปสถานบันเทิงคนเดียว ควรมีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปด้วย
3. ดื่มแอลกอฮอล์ให้พอดี เพื่อให้มีสติ ไม่เกิดอาการมึนเมา
4. ไม่รับเครื่องดื่มจากคนที่เราไม่รู้จัก
5. ไม่ดื่มเครื่องดื่มอย่างรวดเร็ว หากเราดื่มทีละน้อย จะสังเกตตัวเองได้ว่าเกิดอะไรผิดปกติหรือไม่
6. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกันกับผู้อื่น
7. ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เพราะภาชนะแบบนี้สามารถใส่ส่วนผสมเช่น ยาอันตราย ลงไป ได้ง่าย
8. ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตัวเอง

ขอขอบคุณข้อมูลและคำแนะนำจาก: รศ.พญ.ศศิโสภิณ เกียรติบูรณกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์,ramachannel

logoline