ความในใจ...ภรรยาอส.ที่เสียชีวิตที่ปัตตานี เสียดายสามีไม่ทันเห็นหน้าลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม ได้ลอบวางระเบิด และกดชนวนระเบิดแสวงเครื่องแบบกล่องเหล็ก วางไว้ข้างทางแรงระเบิด ทำให้ จนท.อส.ชุดคุ้มครองตำบล นาประดู่ ซึ่งออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนคุ้มครองครู ที่บริเวณปากทางเข้ารร.บ้านควนประ ม.5 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จำนวน3คันรวม6คน ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ6คน แต่สาหัส2คนคือ อส.พงษ์ศักดิ์ ยอดใจ และ อส.พัลลภ ศรีทองแก้ว ทั้งสอง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศรีษะ แต่ อส.พัลลภทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว นส.พิชชาภรณ์ เกษมศรี ชื่อเล่นชื่อเดียร์ ภรรยาของ อส.พัลลภ ศรีทองแก้วอายุ29ปียังร้องไห้เสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ มีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเดินทางมาให้กำลังใจ และให้เข้มแข็งสู้กับชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่เพื่อลูกที่อยู่ในท้อง ที่คั้งท้องอยู่5เดือน และจะเลี้ยงให้ดีที่สุดตามที่สามีอันเป็นสุดที่รักที่ได้จากไป และได้บอกตลอดว่าเลั้ยงลูกคนนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างกำลังใจในการดำรงชีวิต
นส.พิชชาภรณ์ เกษมศรี ยังบอกอีกว่า อส.พัลลภ เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และเรียนโรงเรียนเดียวกัน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยม แต่ไม่ได้สนิท และไม่ค่อยพผูดคุย และไม่เคยมีความรักกัน และแยกย้ายกันไป แต่เมื่อได้ทำงานได้เริ่มมีการติดต่อกัน ไปมาหาสู่ แกเป็นคนดี ทั้งเราและครอบครัวเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายและเป็นสามีที่ดีที่สุด เราไปเที่ยวด้วยกันอยู่อย่างมีความสุขไม่เคยทะเลาะพูดเพราะ ก่อนออกทำงานก็จะหอมแก้มกอด และบอกทุกครั้งทำให้มีความอบอุ่นรักเขามาก การจากไปครั้งนี้เสียใจมากขาดผู้นำครอบครัวที่ดีที่สุดไป
นอกจากนั้นในบริเวณที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ นส.พิชชาภรณ์ ได้นำภาพต่างๆที่อยู่เที่ยวด้วยกัน ตัดบอร์ดสองแผ่นเพื่อรำลึกถึงสามีที่จากไป และหมั่นมาดูรูปทุกวันทำให้ที่มาร่วมงานศพเห็นแล้วรู้สึกเห็นใจกับนส.พิชชาภรณ์ดังกบ่าว
นส.พิชชาภรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยอาการสะอึกสะอื้นว่า เหตุการณ์ในพื้นที่เกิดจึ้นค่อเนื่อง อส.ต้องสละชีวิตเรื่อยๆให้รัฐแก้ไขให้เด็ดขาดไม่ให้มีการสูญเสียอีก
ขณะนี้ตนท้อง5เดือนเพราะพึ่งแต่งงาน ไม่ทันเห็นหน้าลูกต้องเสียชีวิตไปก่อน
ซึ่งก่อนจะเสียชีวิตก่อนออกปฏิบัติหน้าที่มาหอมแก้มบอกว่ารักลูก รักตน ซึ่งทำปกติแต่วันเสียชีวิตจะอยู่นานกว่า และพอถึงที่ทำงานก็โทรบอกว่าถึงแล้ว หบังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีคนแจ้งให้ไปโรงพยาบาล แต่ไม่บอกว่าแฟนเป็นอะไรแต่มาทราบทีหลัง
เมื่อทราบข่าวก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับแฟน เพราะอยู่ใกล้บ้านและพึ่งคุยกับเขาไม่คิดว่าจะไปเร็ว กระทันหันตั้งรับไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าขาดไปคนหนึ่งอยู่ได้ไหม นส.พิชชาภรณ์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าต้องอยู่ให้ได้ แต่ให้ดีอยากให้เขาอยู่ด้วย เพร่ะจะคลอดลูกปีหน้าแล้วและพูดด้วยกันเสมอว่าเมื่อมีลูกครอบครัวเราสมบูรณ์ และวางแผนไว้ว่าเลี้ยงลูกให้ดี เรียนรับปริญญา และลูกแต่งงาน อยู่ด้วยกันด่วยความอบอุ่น และเราค่อยตายกัน แต่ตนต้องขอตายก่อน ไม่คิดว่สจะเสียชีวิตเร็ว ทำใจไม่ได้ ตอนนี้ตั้งใจจะดูลูกให้ดีที่สุดตามที่เขาหวัง แต่จะไม่ให้ลูกลำบากและลูกคงจะภูมิใจที่พ่อเสียสละในหน้าที่ กล่าวในที่สุด