ซึ่งในการเดินทางกลับไทยครั้งนี้ นำโดย อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย พร้อมด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กัปตันทีม, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด, สารัช อยู่เย็น, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด มารอต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้ และเงินอัดฉีดให้แก่ขุนพลทัพช้างศึก จำนวน 9 ล้านบาท จากผลที่ทีมไทย สามาถเอาชนะอินโดนีเซียได้ 3-0 (ช้าง 6 ล้าน, สมาคม 3ล้าน) (ช้างอัดฉีดลูกละ 2 ล้าน,สมาคม ให้ลูกละ 1ล้าน) // ส่วนในรายของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน ได้แยกบินตรงกลับต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นทันที หลังจบเกมการแข่งขัน
ด้าน อากิระ นิชิโนะ ได้เผยว่า รู้สึกพอใจกับ 4 คะแนนจาก 2 นัดแรก ซึ่งนักเตะทุกคนได้สู้กันอย่างเต็มที่ และปรับจูนข้อผิดพลาดจากเกมแรกกับเวียดนาม จนทำให้นัดสองกับอินโดฯ เราเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้น และสามารถบุกไปเก็บ 3 คะแนนได้ แต่ตนก็มองว่ายังมีบางจุดที่ต้องปรับจูนกันอีกเล็กน้อยเพื่อให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่วนหลังจากนี้ที่นักเตะจะต้องแยกย้ายกลับสโมสรตนก็ได้กำชับว่า ให้กลับไปพัฒนาฝีเท้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตนเองก็จะพยายามเดินทางไปดูฟอร์มของนักเตะตามสนามต่างๆ เพื่อดึงผู้เล่นที่มีศักยภาพเข้ามาเติมเต็มให้ทัพช้างศึก
ด้าน สุภโชค สารชาติ ฮีโร่ทัพช้างศึก ที่ซัด 2 ประตู ในเกมกับอินโดฯ กล่าวถึงความรู้สึกหลังยิงประตูให้ทีมไทยขึ้นนำ 1-0 ว่า วินาทีนั้นเขารู้โล่งใจทันที จากความกดดันที่ยิงประตูไม่ได้ในเกมแรก จนโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเซียล ซึ่ง 2 ประตูที่ทำได้ในวันนั้นก็ขอมอบให้แฟนบอลชาวไทย ส่วนที่มาของท่าดีใจหลังยิงประตูได้นั้น เป็นท่าที่เขาเองทำเป็นประจำกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอยู่แล้ว
สำหรับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ หลังจากนี้ จะมีโปรแกรมลงแข่งขันศึกคัดฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ2 นัดที่3 ของกลุ่มจี พบกับ ยูเออี ในวันที่ 15 ต.ค. ที่สนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต