svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สืบบช.น.จับสองสามีภรรยา หมายจับคดีอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว

08 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลรวบสองสามีภรรยาตามหมายจับค้างเก่า หลบหนีหมายจับมากบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร ค้นรถยนต์พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางซุกซ่อนอยู่

วันนี้ (8 กันยายน) ที่ กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธ์ิ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายดาวรุ่ง หรือเล็ก สีมาทอง อายุ 45 ปี ชาวจ.สระบุรี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนยาว ชนิดเดี่ยวลูกกรด ขนาด.22 มม.ยี่ห้อ ซีแซด พร้อมกล้องเล็ง จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22 ไม่ทราบยี่ห้อ พร้อมกล้องเล็ง จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน ขนาด .22 พร้อม เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 5 นัด และจับกุม น.ส.นุชรี หรืออ้วน สีมาทอง อายุ 28 ปี ภรรยานายดาวรุ่ง ชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยจับกุมได้ที่ ริมถนนเลียบชายทะเล ม.11 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา

สืบบช.น.จับสองสามีภรรยา หมายจับคดีอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า จากการสืบสวนทราบว่านายดาวรุ่ง ได้หลบหนีหมายจับมากบดานอยู่ในพื้นที่จ.ชุมพร จึงประสานข้อมูลการปฏิบัติกับฝ่ายสืบสวนกก.สส. ภ.จว.ชุมพร เพื่อดำเนินการเข้าสืบสวนจับกุม ต่อมาได้พบตัวนายดาวรุ่ง และน.ส.นุชรี ขณะอยู่บริเวณริมถนนเลียบชายทะเล โดยยืนอยู่ข้างรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของนายดาวรุ่ง จึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบและตรวจค้นรถยนต์กระบะดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะโดยมีผ้าสีดำคลุมทับเอาไว้เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่

สืบบช.น.จับสองสามีภรรยา หมายจับคดีอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว

จากการสอบถามนายดาวรุ่ง ยอมรับว่า เป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ตนเองมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจริงนอกจากนี้จากตรวจสอบประวัติของนายดาวรุ่ง และน. ส.นุชรี พบว่านายดาวรุ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับอีกหลายคดีที่ทางการยังต้องการตัวมาดำเนินคดีดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดลพบุรีที่ 192/2554 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (รถยนต์) ของสภ.เพนียด จ.ลพบุรี 2.หมายจับศาลจังหวัดอ่างทองที่ 175/2554 ข้อหาลักทรัพย์ของสภ.เมืองอ่างทอง 3.หมายจับศาลจังหวัดสระบุรีที่ 666/2558 ข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นสภ.เมืองสระบุรี 4.หมายจับศาลจังหวัดนครนายกที่ 386/2549 ข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วยของสภ.บ้านนา จ.นครนายก 5.หมายจับศาลจังหวัดสีคิ้วที่ 216/2550 ข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลฯ ของสภ.หินดาด จ.นครราชสีมา 6.หมายจับศาลจังหวัดแพร่ที่ 165/2550 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสของสภ. เด่นชัย จ.แพร่ 7.ตรวจสอบพบเคยก่อคดีเกี่ยวกับลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ในพื้นที่สภ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี ,สภ.เด่นชัย จ.แพร่ และสภ.บ้านนา จ.นครนายก ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วอีกจำนวน 4 คดี

ส่วนน.ส.นุชรี จากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรีที่ จ.193/2554 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (รถยนต์) ของสภ.เพนียด จ.ลพบุรี โดยร่วมกันก่อเหตุกับนายดาวรุ่ง หลังจากก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาทั้งสองคนได้หลบหนีมากบดานในพื้นที่จ.ชุมพรกว่า 10 ปีแล้ว จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

สืบบช.น.จับสองสามีภรรยา หมายจับคดีอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว


เบื้องต้นแจ้งข้อหานายดาวรุ่ง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร นำตัวส่งสภ.ปากน้ำชุมพร ดำเนินคดี และแจ้งข้อหาน.ส. นุชรี ฐานร่วมกันลักทรัพย์(รถยนต์) นำส่งสภ.เพนียด จ.ลพบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

logoline