กาฬสินธุ์...ยกระดับป้องกันน้ำท่วมขั้นสูงสุด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ ขยายวงกว้างหลังจากที่ ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องรวม 12 วัน ทำให้เกิดมวลน้ำจำนวนมากและยังระบายได้ช้า ลำน้ำชีที่มีมวลน้ำจำนวนมากทำให้ดันลำน้ำปาวยัอนหลับมา ส่งผลให้ชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ในเขตเทศบาลเมือง ได้รับผลกระทบ สถานการณ์อุทกภัยยืดเยื้อออกไปเป็นวันที่ 5 ภาพรวมภายในจังหวัดมีน้ำท่วม 15 อำเภอ  อำเภอที่ได้รับผลหระทบหนักสุด คือ เขตเมือง เนื่องากเป็นพื้นที่ต่ำ รับน้ำจากทุ่งนา โดยเฉพาะมวลน้ำจากอำเภอยาวตลาด ประกอบกับน้ำจากห้วยสีทน ทียังเกินกีกเก็บ ต้องระบายออกมา ทำให้ตำบล 24 ชุมชน 3 ตำบล ได้รับผลกระทบ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต ยังรับมือได้ แต่มวลน้ำที่มาทุกทิศทุกทางทั้งจากมหาสารคาม  ร้อยเอ็ด ทำให้เวลานี้ตัองป้องกันในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองในระดับสูงสุดเนื่องจากมีการประเมินว่าจะเกิดฝนตกหนักในวันที่ 3-4 กันยายนนี้ จากการติดตามสถานการณ์ ไม่มีน้ำล้นเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนจุฬาลงกรณ์ จึงเบาใจได้ระดับหนึ่ง ทำให้สถานการณ์รุนแรงแต่ยังไม่เท่าปี 2560 ส่วนการประเมินผลกระทบจากพายุในวันนี้จะมีฝน 5 ระลอก ขณะนี้ผ่านไป 3 ระลอกแล้ว สิ่งที่กังวล คือ น้ำในเขื่อนลำปาว  หากฝนลดจะต้องระบาย  และเร่งผันน้ำลงลำน้ำชี้ให้เร็วที่สุด 
สำหรับการระบายน้ำในห้วยสีทน อ.เมือง ตัวการสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมเขตเทศบาลเมือง เวลานี้ยังต้องเร่งระบายน้ำล้น ที่มีน้ำเกินกับเก็บ เกือบ 6 ล้าน ลบ.ม. จากความจุ 3.50 ล้าน ลบ.ม. ตอนนี้ระบายน้ำ 2 ช่องทางจากอาคารระบายน้ำล้น สปิลย์เวย์ และ กาลักน้ำ จำนวน 5 ตัว รวมตัองเร่งระบายวันละ 1.5 ล้าน ลบ.ม. จะยิ่งทำให้ระดับน้ำในน้ำปาวสูงขึ้น หากระบายไปตามลำน้ำชีไม่ได้ ขณะเดียวกันยังมีฝนกลงมามาเติมเป็นระยะ