svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบลุงแสบวัย 76 หลอกสั่งของเชิดหนี

01 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองปราบปรามรวบลุงแสบวัย 76 ปีหลอกสั่งของ ทำทีขอเป็นจ่ายเช็ค สุดท้ายขึ้นเงินไม่ได้เชิดของหนีหาย ด้านเจ้าตัวภาคเสธ อ้างแค่พนักงานคอยรับส่งของ ขณะที่ตำรวจพบประวัติเคยก่อคดีถูกออกหมายจับร่วม 20 คดี เคยติดคุกแต่ออกมายังก่อเหตุซ้ำอีก

วันที่ 1 สิงหาคม มีรายงานว่า  พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้   ร.ต.อ.ทวี ศรีหะบุตร รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ชป.1 กก.2 บก.ป. เข้าจับกุม นายสุริยะ โยธินชวโร อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายด้วยกัน 1. "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" ตามหมายจับของศาลธัญบุรี ที่ 890/2561 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 2."ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" ตามหมายจับของศาลธัญบุรี ที่ 894/2559 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 3."ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" ตามหมายจับของศาลธัญบุรี ที่ 897/2561 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 4."ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" ตามหมายจับของศาลธัญบุรี ที่ 902/2561 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561


รวบลุงแสบวัย 76 หลอกสั่งของเชิดหนี




สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวก อีก 3 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ได้ทำทีโทรมาติดต่อขอซื้อเครื่องเชื่อมเหล็กกับผู้เสียหายมูลค่ากว่า 150,000 บาท โดยหลอกว่าเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง จะขอซื้อเครื่องเชื่อมเหล็กเพื่อไปใช้ในโครงการของหมู่บ้าน โดยจะขอจ่ายเป็นเงินสด แต่พอผู้เสียหายนำของมาส่ง ผู้ต้องหากลับขอจ่ายเป็น เช็คแทน โดยผู้ต้องหาจะเลือกนัดวันรับของจากผู้เสียหายให้ตรงกับวันหยุดราชการ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบกับธนาคารได้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปเบิกเงินกับธนาคาร ปรากฏว่า บัญชีดังกล่าวได้ถูกปิดไปนานแล้ว ผู้เสียหายได้พยายามโทรติดต่อกับผู้ต้องหาแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวก 


รวบลุงแสบวัย 76 หลอกสั่งของเชิดหนี




ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวซึ่งทางชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาจะเข้ามาห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาพาต้าปิ่นเกล้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร บ่อยครั้งเพื่อมากดเงิน จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งวันที่ 31 กรกฎาคม เวลาประมาณ 12.00 น.  ผู้ต้องหาเดินเข้าภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้น รับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง  แต่ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเป็นเพียงพนักงานคอยรับส่งของเท่านั้น โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 2,000-3,000 บาท อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา พบว่า ผู้ต้องหานี้มีหมายจับ ทั้งสิ้น 18 หมาย และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดี จำนวน 4 หมายดังกล่าวข้างต้น 


โดยผู้ต้องหาเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจนครบาลจับกุมตัวได้ และศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกผู้ต้องหา เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วก็ยังหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันเรื่อยมา โดยแต่ละรายจะได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 100,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline