svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

บินไทยฉาว! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ศุลกากรไทยยังเงียบ

24 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บินไทยฉาวอีก! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าและตัวบุหรี่ล็อตใหญ่จากญี่ปุ่นเข้าไทย ร่วม 200 ชิ้น ผู้โดยสารเห็นร้องศุลกากรโนริตะ แจ้งเรื่องศุลกากรไทยยังเงียบ ด้าน การบินไทย ระบุระดับบริหารยังไม่ได้รับรายงาน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอื้อฉาวอย่างกว้างขวางในหมู่พนักงานต้อนรับสายการบินไทย เนื่องจากในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในกรุ๊ปไลน์ของพนักงานได้มีการพูดถึงกรณีที่มีสจ๊วตของการบินไทยรายหนึ่ง ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าและตัวบุหรี่จำนวน จำนวนอย่างละ 100 ชิ้นจากเมืองโนริตะ ประเทศญี่ปุ่น มากับเที่ยวบิน ทีจี 677
โดยต้นเรื่องมาจากมีผู้โดยสารภาคพื้นดินที่อยู่ในอาคารสนามบินโนริตะ สังเกตเห็นสจ๊วตคนดัง กล่าวขนบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่เข้าไปในเครื่องบิน เที่ยวบิน ทีจี 677 ที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ในวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรของญี่ปุ่นให้ทราบเรื่อง โดยที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของญีปุ่น ได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ศุลกากรของไทยในเวลาเดียวกัน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าที่สจ๊วตกำลังขนเข้าประเทศถือว่าเป็นสิ่งผิดหมาย ที่ลูกเรือไม่สามารถซื้อบุหรี่หรือไส้บุหรี่ไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้

บินไทยฉาว! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ศุลกากรไทยยังเงียบ


กระทั่งเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 21.30 น. วันที่ 20 กรกฎาคม หลังจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดลงจากเครื่องแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรจากสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินการเข้าไปตรวจค้นที่รถโดยสารลูกเรือการบินไทย โดยเจ้าหน้าที่พบเพียงกระเป๋าขนาดใหญ่วางอยู่บนเก้าอี้นั่งบนรถ แต่ไม่พบตัวสจ๊วตคนที่ขนบุหรี่ไฟฟ้ามา เมื่อตรวจค้นของภายในกระเป๋าดังกล่าวพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 100 ชิ้น และไส้บุหรี่อีก 100 ชิ้น รวมมูลค่า 300,000 บาท แต่ถ้านำมาขายในประเทศไทย จะราค่าเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ 600,000 บาท จึงทำได้เพียงยึดของกลางไว้ ส่วนสจ๊วตที่ลักลอบขนสิ่งกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักรทราบข้อมูลว่า เดินทางออกจากสนามบินตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่งผลให้พนักงานขับรถโดยสารลูกเรือคันดังกล่าวต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบแทน

สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ของบรรดาพนักงานงานสายการบินนั้น พยายามเรียกร้องความเป็นธรรม นำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ไม่ปล่อยให้ลอยนวล และไม่ผลักภาระความรับผิดชอบไปให้คนอื่น ตลอดจนต้องการรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร

บินไทยฉาว! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ศุลกากรไทยยังเงียบ


โดยเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในไลน์กรุ๊ปของพนักงานตอนรับการบินไทย อาทิ "มีใครทราบข่าวเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า lot ใหญ่ที มีลูกเรือนำเข้ามา flt 677 แล้วโดนศุลกากรจับได้ ไหมคะ" , "ช่างกล้าเนอะ อย่างนี้ผู้บริหารควรจะลง มาทำอะไรสัก อย่าง เชือดไก่ให้ลิง ดูเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่คิดอยากจะทำ ได้ข่าวว่าเป็นล็อตใหญ่มาก" , "คนทำผิด พาให้คนอื่นเดือดร้อน นโยบายเหวี่ยงแห" ฯลฯ
ขณะเดียวกันยังมีสจ๊วตนายหนึ่งได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ด้วยในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมกับแท็กไปถึงเฟซบุ๊ก "TG info by TG crew" ว่า จากเคส case บุหรี่ไฟฟ้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ห้ามให้คนขับรถยกกระเป๋าให้ลูกเรือทุกกรณี สัมภาระทุกชิ้นของลูกเรือจะต้องดูแลเองตาม PSM ก่อนจะมีคนเข้ามาคอมเม้นท์ จากนั้นไม่นานโพสต์นี้ก็ถูกลบทิ้งไป แต่ยังมีโพสต์อื่น ๆ ที่กล่าวถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเชิงตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในไทย รวมทั้งความแตกต่างระหว่างสินค้าหนีภาษี กับ สินค้าที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีแอร์โฮสเตสการบินไทยรายหนึ่ง ให้รายละเอียดกับ"คมชัดลึกว่า" คนในองค์กรพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก และมีข้อมูลหลายกระแส โดยยังไม่แน่ชัดว่าสจ๊วตที่ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้ามาชื่ออะไร ต่างก็บอกว่าทำไมถึงกล้าทำ เชื่อว่าทางผู้บริหารน่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งก็เป็นปกติเวลามีพนักงานกระทำผิด โดยโทษอาจถึงขั้นไล่ออก และยังไม่รู้ว่าการเอาผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ศุลกากรดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

บินไทยฉาว! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ศุลกากรไทยยังเงียบ


สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ของบรรดาพนักงานงานสายการบินนั้น พยายามเรียกร้องความเป็นธรรม นำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ไม่ปล่อยให้ลอยนวล และไม่ผลักภาระความรับผิดชอบไปให้คนอื่น ตลอดจนต้องการรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร
โดยเรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในไลน์กรุ๊ปของพนักงานตอนรับการบินไทย อาทิ "มีใครทราบข่าวเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า lot ใหญ่ที มีลูกเรือนำเข้ามา flt 677 แล้วโดนศุลกากรจับได้ ไหมคะ" , "ช่างกล้าเนอะ อย่างนี้ผู้บริหารควรจะลง มาทำอะไรสัก อย่าง เชือดไก่ให้ลิง ดูเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่คิดอยากจะทำ ได้ข่าวว่าเป็นล็อตใหญ่มาก" , "คนทำผิด พาให้คนอื่นเดือดร้อน นโยบายเหวี่ยงแห" ฯลฯ
ขณะเดียวกันยังมีสจ๊วตนายหนึ่งได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ด้วยในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมกับแท็กไปถึงเฟซบุ๊ก "TG info by TG crew" ว่า จากเคส case บุหรี่ไฟฟ้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ห้ามให้คนขับรถยกกระเป๋าให้ลูกเรือทุกกรณี สัมภาระทุกชิ้นของลูกเรือจะต้องดูแลเองตาม PSM ก่อนจะมีคนเข้ามาคอมเม้นท์ จากนั้นไม่นานโพสต์นี้ก็ถูกลบทิ้งไป แต่ยังมีโพสต์อื่น ๆ ที่กล่าวถึงเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าเชิงตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในไทย รวมทั้งความแตกต่างระหว่างสินค้าหนีภาษี กับ สินค้าที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีแอร์โฮสเตสการบินไทยรายหนึ่ง ให้รายละเอียดกับทีมข่าวว่า คนในองค์กรพูดถึงเรื่องนี้เยอะมาก และมีข้อมูลหลายกระแส โดยยังไม่แน่ชัดว่าสจ๊วตที่ลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้ามาชื่ออะไร ต่างก็บอกว่าทำไมถึงกล้าทำ เชื่อว่าทางผู้บริหารน่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งก็เป็นปกติเวลามีพนักงานกระทำผิด โดยโทษอาจถึงขั้นไล่ออก และยังไม่รู้ว่าการเอาผิดตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ศุลกากรดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

บินไทยฉาว! สจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ศุลกากรไทยยังเงียบ

สำหรับกรณีดังกล่าวทางทีมข่าวได้พยายามสอบถามกับศุลกากรเพื่อให้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขั้นตอนเอาผิดตามกฎหมายว่ามีการดำเนินคดีแบบไหนอย่างไร หรือทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้วหรือยัง แต่ยังไม่สามารถติดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาตอบคำถาม หรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นเดียวกับบรรดาพนักงานการบินไทยก็อยากจะทราบเช่นเดียวกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายประชาสัมพันธ์การบินไทย หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้เหตุผลว่า เรื่องนี้ระดับบริหารยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ปรากฎชัดเจนว่ามีการแชร์เรื่องราวในโซเชียลมีเดีย หรือสื่อกระแสหลัก จึงยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบ และเพิ่งทราบจากทางทีมข่าวว่า มีบรรดาพนักงานการบินไทยวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นฝ่ายบริหารจึงไม่สามารถบอกได้ว่าขั้นตอนการดำเนินคดีเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นเช่นไร หรือเจ้าหน้าที่ศุลกากรดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว หากแน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริงก็จะมีการทำรายงานตามขั้นตอน และมีการลงโทษตามระเบียบขององค์กรต่อไป
ทั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองเป็นความผิดตามกฎหมาย เพราะว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของที่ต้องห้ามนำเข้า หากผู้ใดรับไว้โดยประการใดซึ่งของที่ต้องห้ามนำเข้า มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยอำนาจจับนั้น ตำรวจสามารถจับได้ แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่จับ ก็ต้องส่งไปที่สถานีตำรวจ ตามมาตรา 20 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 20 ที่ระบุว่า ถ้าพบผู้ใดกำลังทำความผิดหรือพยายามกระทำความผิด หรือใช้ หรือช่วย หรือยุยงให้ผู้อื่นกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ พนักงานเจ้าหน้าที่อาจจับผู้นั้นได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ แล้วนำส่งยังสถานีตำรวจพร้อมด้วยของกลางที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือพยายามกระทำความผิด เพื่อจัดการตามกฎหมาย และถ้ามีเหตุอันสมควรสงสัยว่าบุคคลใดได้กระทำความผิดพระราชบัญญัตินี้ก็ดี หรือมีสิ่งของไปกับตัวอันจะเป็นของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดมาแล้ว หรืออาจได้กระทำผิดขึ้นก็ดี พนักงานเจ้าหน้าที่อาจจับผู้นั้นส่งไปจัดการโดยทำนองเดียวกัน
ส่วน มาตรา 27 ทวิ ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดีหรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อจํากัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้นก็ดีมีความผิดต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจําทั้งปรับ
อย่างไรก็ตามยังมีประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ข้อ 3 ให้สินค้าตามบัญชีท้ายประกาศนี้เป็นสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ข้อ 4 ให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร

logoline