"จะทำอย่างไรให้มีค่าใช้จ่ายน้อยลง" ส่วนหนึ่งจากการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งได้สั่งการให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไปพิจารณา "แผนการบรรจุข้าราชการประจำปี" โดยให้เร่งศึกษาและทำแผนมาเสนอ ซึ่งอาจจะต้องเกลี่ยอัตรากำลังที่มีการเกษียณอายุราชการ
นั่นหมายความว่ารัฐบาลจะประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการลดการบรรจุข้าราชใหม่ และยืดอายุข้าราชการเกษียณออกไปใช่หรือไม่ ถ้าใช่แบบไหนลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน คำถามนี้หนักใจไม่น้อย
ถ้าเป็นการทำธุรกิจเอกชน เราจะได้เห็นการลดรายจ่ายด้วยการเออรี่รีไทร์ หรือการจ้างออกกับพนักงานอาวุโส เพราะมีเงินเดือนสูง ในขณะที่ยังคงจ้างพนักงานใหม่ ซึ่งเงินเดือนน้อยกว่าเอาไว้ เนื่องจากเป็นมดงานสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร แต่ในทางกลับกัน "ข้าราชการ" ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อข้าราชการหนึ่งคนเกษียณ ยังต้องจ่ายบำนาญไปจนตาย
และนี่อาจเป็นทางเลือกสำหรับรัฐบาลที่อาจจะต้องเกลี่ยอัตรากำลังที่มีการเกษียณอายุราชการ แทนที่จะบรรจุข้าราชการที่เป็น "คนรุ่นใหม่" ที่อาจทำงานได้ดีกว่า และมีต้นทุนตำกว่า
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำหนดการบรรจุข้าราชการใหม่ ต้องมีสัดส่วนคือ 1.สอบทั่วไป 2.สอบเฉพาะหน้าที่หรือเฉพาะสาขาที่ต้องการเข้ามาในระบบราชการ ซึ่งอาจมาได้ 2 อย่างคือเป็นทั้งลูกจ้างหรือจัดจ้างชั่วคราวเพื่อทำงานในส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่
หรือการบรรจุราชการประเภททั่วไปแบบเดิมที่สอบ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของส่วนราชการและการเปลี่ยนแปลงการเป็นรัฐบาล E-Government ในอนาคต ซึ่งจะไปสอดคล้องกับการสนับสนุนทุนการศึกษาเฉพาะทาง
อีกคำถามหนึ่งที่ตามมาหลังคนได้ยินว่า "รัฐบาลต้องการลดรายจ่าย" คือ "รัฐบาลกำลังมีปัญหาเงินคงคลังใช่ไหม ?"
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.-พ.ย. 2561) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น "407,611 ล้านบาท" ขณะที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น "694,555 ล้านบาท" ซึ่งได้มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการ "ขาดดุล" จำนวน 99,200 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2561 อยู่ที่ 427,472 ล้านบาท นั่นหมายความว่า "รายจ่าย" มากกว่า "รายรับ" นี่อาจเป็นเหตุผลให้ต้องลดรายจ่าย ใช่ หรือ ไม่
คำถามเกิดขึ้นอีกว่า ระหว่าง ลดจำนวน "ข้าราชการ" กับลดจำนวน "ทหาร-นายพล" ควรลดอะไร งบประมาณกระทรวงกลาโหมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จาก 81,241 ล้านบาท ในปี 2548 มาเป็น 193,066 ล้านบาท ในปี 2558 และล่าสุด ปี 2561 อยู่ที่ 222,437 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนนายช่วงปี 2551-2554 อยู่ที่ 550-584 คน ก่อนทะลุ 1,000 คนในช่วงปี 2557 และปี 2561 มีจำนวนนายพลอยู่ที่ 935 คน.
#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV