ผู้รู้หลายท่านบอกว่าจริงๆแล้วอียูให้เวลาไทย 6 เดือนในการทำแผนว่าจะแก้ปัญหาประมงที่ไร้การควบคุมอย่างไร ไม่ใช่ให้แก้ปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าการแก้ไขปัญหา ที่ใช้ยาแรงรวดเร็วฉับพลันเช่นนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบกับชาวประมงพาณิชย์ที่ทำเป็นอุตสาหกรรมอยู่เดิมให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
ผมเห็นด้วยกับการควบคุมการทำประมงเพื่อที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเลเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตปลาทู ในอีก 5 ปี อาจจะลดน้อยลงหรือไม่มีเลย เพราะฉะนั้นการทำประมงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการควบคุม แต่การควบคุมแบบไหน ถึงจะเรียกว่าเป็นการควบคุมอย่างเป็นธรรม กับทุกฝ่าย?
ผมได้รับมอบหมายจากกองบรรณาธิการให้ตามข่าว ผลกระทบด้านกฎหมาย จากชาวประมงพาณิชย์หลังจากที่ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกเดินสายรับฟังความเห็นจากชาวประมงในหลายพื้นที่ ซึ่งก็พบว่ามีกลุ่มชาวประมง 2 กลุ่มที่อาจมีความเห็นต่างกัน
กลุ่มแรกคือชาวประมงพาณิชย์ ที่มีต้นทุนสูงขึ้นจากการทำตามกฎหมาย iuu และเสี่ยงที่จะทำความผิดทุกเวลา มันเป็นความผิดที่ จะได้รับโทษปรับ ที่ถึงกับต้องสิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยทีเดียว
อีกกลุ่มหนึ่งคือประมงพื้นบ้านบางส่วน เห็นด้วยกับการมีกฎ iuu ที่มีการแบ่งพื้นที่การทำประมงที่ชัดเจนว่าสำหรับกลุ่มประมงพาณิชย์จะต้องหาปลา ไกลจากฝั่งไป 3 ไมล์ทะเล ดังนั้นพื้นที่ทะเลหน้าในที่เหลือจึงเป็น พื้นที่ทำมาหากินของชาวประมงพื้นบ้าน
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากการทำตามกฎหมาย ก็คือแรงงานประมงซึ่งนับเป็นแรงงานที่น่าสงสารที่สุด ย้อนไปเมื่อ 10-20 ปีก่อนเรายังได้เห็นแรงงานประมงที่เป็นคนไทย แต่ในปัจจุบันแรงงานประมงแทบไม่มีคนไทยอยู่เลย มีแต่เป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านนั่นเป็นเพราะงานที่หนักและไร้สวัสดิการ
ประเด็นการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายเป็นหนึ่งในประเด็นที่กองบก. ถกเถียงกันอย่างมาก เพราะว่าที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ ได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรทางทะเล ที่มากเกินไปและควรได้รับการควบคุมจริงๆ
หลังจากที่ คสช. แก้ไขปัญหานี้ด้วยความฉับพลันเป้าประสงค์คือเพื่อลดจำนวนเรือประมงลงซึ่งปัจจุบันก็เหลืออยู่ประมาณ 2 หมื่นลำ ทั้งยังมีแนวโน้มลดลง โดยภาครัฐมีมาตรการเยียวยาจ่ายเงินชดให้กับชาวประมงที่จอดเรือ เปลี่ยนอาชีพ ซึ่งดูจะเป็นมาตรการเยียวยาที่ชาวประมงให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากมีกฎในการควบคุมที่ละเอียดยิบย่อยมากมายขนาดนี้ การเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นเห็นจะคุ้มกว่าหลังการเลือกตั้ง หลายพรรคการเมืองหยิบยกเรื่องการแก้ปัญหาประมง และสัญญารับปากว่าจะพัฒนากอบกู้วงการประมงพาณิชย์ให้กลับคืนมา แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่าจะต้องไม่ทำผิดไปจากกฎ iuu คือยังต้องมีการควบคุมการทำประมงอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมืดแปดด้าน ถ้าจะให้มันออกมาในลักษณะแบบวินๆ คือได้ทั้งผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ และสิ่งแวดล้อมยังคงอยู่ต่อไปด้วย
อีกด้านหนึ่งหากมีการควบคุมการทำประมง จำนวนเรือประมงที่ลดน้อยลง ก็จะเป็นไปตามกลไกตลาด ราคาอาหารทะเลหลังจากนี้ก็จะมีราคาที่สูงมากขึ้น ปัจจุบัน เกือบครึ่งหนึ่งประเทศไทยนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นอาหารทะเลที่หามาจากการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ที่ประเทศเพื่อนบ้านยังไม่ได้มีการควบคุมการประมง
หากว่ากันถึงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมงแล้ว ประเทศไทยจะแก้ไขปัญหานี้เพียงประเทศเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติกลับคืนมา แต่จะต้องควบคุมการทำประมงทั้งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีเดิมพันคืออาหารทะเลจะราคาสูงขึ้น และคนจนอาจไม่มีโอกาสได้กินอาหารทะเล.