ชาวบ้านสระบุรีขู่ฟ้อง "เหมืองปูน" ทำผิดกฎหมาย

ความคืบหน้าการเปิดรับฟังความคิดเห็นของ 3 ชุมชน คือชุมชนเกษตรสัมพันธ์ ชุมชนบ้านถ้ำพัฒนา และชุมชนบ้านน้ำพุ ในพื้นที่จ.สระบุรี ต่อกรณีเหมืองปูนแห่งหนึ่งในพื้นที่จะหมดอายุสัปทานในปี 2564 และได้มีการยื่นขอขยายอายุสัปทานเพิ่ม ล่าสุดอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาต ซึ่งจะต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่
ทว่าครั้งนี้มีชาวบ้านมาร่วมรับฟังความคิดเห็นเกือบครึ่ง โดยพบว่าชาวบ้านมีความเห็นต่างแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเห็นด้วยให้เหมืองปูนแห่งนี้ขยายอายุสัมปทานต่อไป กลุ่มที่ 2 ไม่เห็นด้วยที่จะให้สัมปทาน และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มเสียงข้างมากที่ยอมให้ได้สัมปทาน แต่มีเงื่อนไขขอให้ถอยระยะการระเบิดภูเขาหินปูนออกไปให้ห่างจากชุมชนและวัด 2,000 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด เพราะขณะนี้เหมืองปูนได้ขยับเข้ามาในระยะ 2,000 เมตรแล้วถึง 934 เมตร
ก่อนหน้านี้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว 2 ครั้ง ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด แต่กลับมีมติออกมาว่าชาวบ้านเห็นด้วย และมีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. เซ็นกำกับให้ผ่าน
ส่วนเวทีเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่เปิดให้ชาวบ้านแสดงความคิดเห็นนั้น ได้มีทนายอนันต์ชัย ในฐานะกรรมการวัดในพื้นที่ ลุกขึ้นประกาศกลางเวทีว่า เหมืองปูนแห่งนี้ทำผิดขั้นตอนของกฎหมาย ที่กำหนดชัดเจนว่าห้ามมีเหมืองในระยะ 2,000 เมตรจากชุมชน และห้ามมีเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำ เอ 1 ตามประกาศคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้เหมืองดังกล่าวได้รุกคืบเข้ามาแล้ว หลังจากนี้จะเดินหน้าฟ้องศาลเอาผิดทั้งหมด เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต่ำ 50 คน
ขณะที่ทางฝั่งตัวแทนเหมืองปูน ได้ยืนยันว่าทุกขั้นตอนทำตามกฎหมาย มีการขออนุญาตสภาท้องถิ่น รวมถึงกรมป่าไม้ถูกต้อง
บทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เหมืองปูนจะยอมถอยออกห่างจากชุมชน 2 พันเมตร ตามที่ชาวบ้านร้องขอหรือไม่ คงต้องดูท่าทีทั้งสองฝ่ายหลังจากนี้ ขณะที่เสียงของชาวบ้านจะดังไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือไม่ คงต้องดูกันยาวๆ