svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กฟผ.-ฟฟล. ลงนามซื้อขายไฟฟ้าเสริมความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าไทย

15 มีนาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กฟผ. - ฟฟล. ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนเซเสด ฉบับใหม่ ทดแทนฉบับเดิมที่กำลังจะครบอายุสัญญา เพื่อเสริมความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าไทย โดยปรับอัตราค่าไฟฟ้าปีต่อปี สะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง

วันนี้ (15 มีนาคม 2562) ดร.ศิริจิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ ท่านคำมะนี อินทิลาดรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาวให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างสองประเทศโดยมีนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และท่านบุนอุ้ม สีวันเพ็ง ผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.)เป็นผู้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนเซเสดฉบับใหม่ ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักผู้ว่าการ สำนักงานใหญ่กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

             

กฟผ.-ฟฟล. ลงนามซื้อขายไฟฟ้าเสริมความมั่นคงพลังงานไฟฟ้าไทย


ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทย กับ สปป.ลาว ถือเป็นความร่วมมืออันดีของสองประเทศในการแลกเปลี่ยนพลังงาน(Grid to Grid) ผ่านการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าที่ระดับแรงดัน 115เควีเพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าบนพื้นฐานความเหมาะสมและจำเป็นตามความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ

              



สำหรับการดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 และโครงการเขื่อนเซเสดได้มีการซื้อขายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 ฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2549 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนเซเสดฉบับลงวันที่ 30 เมษายน 2544 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันและกำลังจะครบอายุสัญญาในเดือนมีนาคม2562 นี้ ดังนั้น สัญญาฉบับใหม่จึงเป็นการปรับสัญญาฯจากเดิมกำหนดด้วยราคาคงที่เป็นการปรับราคาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง 

              



"การลงนามของทั้งสองฝ่ายในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่นี้นอกจากจะเป็นการปรับอัตราค่าไฟฟ้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามที่มีการซื้อขายไฟฟ้ากันในปัจจุบันและเสริมสร้างประสิทธิภาพความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าแล้วยังเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศในการพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าร่วมกันอย่างยั่งยืนอันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป" ดร.ศิริจิระพงษ์พันธ์ กล่าวในที่สุด

 

logoline