ส่วนทางสน.พหลโยธิน จะมีการเตรียมกำลังเต็มอัตรา พร้อมประสานทางบก.จร. จัดกำลังตำรวจจำนวน 20 นาย มาอำนวยความสะดวกจัดการจราจร โดยเส้นทางสำหรับรถที่จะมาจากรัชวิภา เเละรถที่มาจากฝั่งศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก สามารถใช้เส้นทางลงอุโมงค์ได้ตั้งเเต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
เเละในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน หากมีการเคลียร์เเละคืนพื้นผิวการจราจรแล้วรถที่มาจากช่วงต่างระดับรัชวิภาสามารถที่จะเลี้ยวซ้าย เเละเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพหลโยธินฝั่งละ 2 ช่องจราจร เเละสามารถใช้อุโมงค์ได้ โดยถนนที่เปิดให้การสัญจรจะเปิดกว้างถึง 6 เลน ตนเชื่อว่าหลังจากที่มีการเปิดใช้อุโมงค์จะส่งผลให้การจราจรในถนนรัชดาภิเษกมีความคล่องตัวขึ้น โดยในช่วงเช้า ฝั่งรัชดาภิเษกขาเข้าคาดว่ารถอาจจะมีสะสมอยู่ที่ สุทธิสาร ห้วยขวาง ส่วนช่วงเย็นฝั่งรัชดาขาออกจะมีรถสะสมอยู่ที่ ช่วงเเยกประชานุกุล ซึ่งจะมีการประสานพื้นที่จังหวัดนนทบุรีให้อำนวยความสะดวก ส่วนเส้นทางถนนพหลโยธิน ขาเข้าเมือง รถที่มาจากหลักสี่ ราบ11 จะคล่องตัวขึ้น เเต่อาจจะส่งผลกระทบเป็นรถสะสมที่บริเวณ ห้าเเยกลาดพร้าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้คำนึงถึงจุดนั้น เเละจัดกำลังลงไปดูเเล้ว ในส่วนของจุดกลับรถเข้าซอยรัชดาฯ 32 ที่อยู่ตรงหน้าศาลอาญาที่รัฐบาลได้สั่งการให้เปิดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถในเส้นทางถนนลาดพร้าวที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เเละเเบ่งให้มาใช้การสัญจรทะลุในซอยรัชดาฯ32 เเม้จะมีการเปิดอุโมงค์ลอดทางเเยกรัชโยธิน เเต่ก็ยังเปิดจุดกลับรถดังกล่าวให้ประชาชนได้ใช้เช่นเดิมคือเวลา 16.30-19.00 น.
เมื่อถามว่าอุโมงค์รัชโยธินที่เปิดในวันพรุ่งนี้จะอนุญาตรถจักรยานยนต์เข้าได้หรือไม่พ.ต.อ.ภาณุเดช กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อบังคับสั่งห้าม ทำให้รถจักรยานยนต์ยังสามารถใช้อุโมงค์ลอดทางเเยกได้ เเต่ต่อไปทางผู้บังคับบัญชาก็คงมีการพิจารณาเเละนำมาพูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อหาทางออกก่อนมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป