การเห็นชอบ มีขึ้นระหว่างการประชุมในวันนี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี ชีค ฮาสินา เป็นประธาน โดยคณะรัฐมนตรีเน้นว่า อุบัติเหตุจากยานยนต์ที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต จะถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และภาคผนวกท้ายกฎหมายระบุว่า ให้มีโทษจำคุก 5 ปี หรือโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกฎหมายก่อนหน้านี้กำหนดโทษสูงสุดไว้ที่ 7 ปี จากนั้นก็ได้รับการแก้ไขลงมาเหลือ 3 ปี
ล่าสุด หลังเข้าสู่การพิจารณาโดยความเห็นของประชาชนจากทุกภาคส่วน กฎหมายนี้กำหนดโทษไว้ที่ 5 ปี และไม่จำกัดโทษปรับ โดยเจ้าหน้าที่สืบสวน จะเป็นผู้ตัดสินว่าความผิดที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายมาตราใด
ทั้งนี้ รัฐบาลบังคลาเทศ เร่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างกฎหมายจราจรฉบับใหม่ หลังเผชิญแรงกดดันจากการประท้วงโดยกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาที่เรียกร้องให้มีความปลอดภัยบนท้องถนน จนส่งผลให้เกิดการผละงานประท้วงโดยผู้ประกอบการรถโดยสารเพื่อตอบโต้กลุ่มนักเรียน
ก่อนหน้านี้ บรรดานักเรียนและนักศึกษา ปะทะกับตำรวจ และกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลในหลายพื้นที่ของกรุงธากา เมื่อวันอาทิตย์ ระหว่างการประท้วงเรียกร้องความปลอดภัยบนท้องถนน หลังรถโดยสารพุ่งชนกลุ่มนักเรียน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกหลายคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการกำหนดเงินเดือนตายตัวให้กับคนขับรถโดยสาร โดยพวกเขาระบุว่าปัญหาสำคัญคือการที่คนขับรถไม่ได้รับเงินเดือนคงที่ แต่เป็นค่าคอมมิชั่นจากจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นรถ จึงทำให้พวกเขาต้องทำยอดแข่งกันรับผู้โดยสาร และเป็นสาเหตุของโศกนาฎกรรมที่ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 2 คน และผู้ประท้วงพากันตั้งด่านตรวจคัดกรองรถโดยสารด้วยตัวเอง จนทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารพร้อมใจหยุดให้บริการทั่วบังคลาเทศ เพื่อตอบโต้ผู้ประท้วง ส่งผลให้ผู้สัญจรได้รับผลกระทบอย่างมาก
ในที่สุด คณะรัฐมนตรี ต้องตัดสินกำหนดโทษสูงสุดแก่ผู้ขับขี่ที่เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ขณะที่บรรดาผู้ประท้วงเรียร้องให้ลงโทษประหารชีวิตแก่ผู้กระทำผิด