"ถ้าบอกว่าแหวนเป็นของแม่ ก็พอฟังได้ แต่ถ้าบอกว่านาฬิกาเป็นของเพื่อน อันนี้แหละที่ต้องทำให้กระจ่างถึงความเป็นมา ถ้าอ้างของเพื่อนให้ยืมใส่ มันง่ายเกินไป ต้องหาเหตุผลให้มีน้ำหนักมากกว่านี้" นายปรีชา กล่าว
"ถ้าบอกว่าเป็นของเพื่อน ก็ต้องบอกว่าเพื่อนคือใคร ต้องเอาเพื่อนมายืนยัน ซึ่งก็ต้องเตือนไว้ล่วงหน้าเลยว่าเพื่อนต้องให้การตามความเป็นจริง ถ้าให้การเข้าข่ายช่วยปกปิด ก็จะมีความผิดไปด้วย อย่างน้อยก็ผิดฐานให้ความเท็จกับ ป.ป.ช. โดยเฉพาะถ้าเพื่อนเป็นข้าราชการจะยุ่งหน่อย เพราะอาจต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินด้วย แต่ถ้าเป็นนักธุรกิจ ก็อาจจะรอดในประเด็นนี้"
อย่างไรก็ตาม นายปรีชา ออกตัวว่า ตนไม่ได้เป็น ป.ป.ช. ไม่ทราบว่า ป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เนื่องจากตนเป็นคนร่างกฎหมาย ป.ป.ช. จึงรู้ดีว่า ป.ป.ช. ปัจจุบันมีอำนาจในการตรวจสอบมากกว่าในยุคที่เป็น ป.ป.ป.ด้วยซ้ำ
"ผมเป็น ป.ป.ป. ส่วนยุค ป.ป.ช.เขาจะดำเนินการอย่างไรคงไม่สามารถตอบได้ แต่หลักการก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน นอกเสียจาก ป.ป.ช.จะมีเจตนาเป็นอย่างอื่น โดยเฉพาะประธาน ป.ป.ช.ที่ถูกเพ่งเล็งอยู่" อดีต ป.ป.ป. กล่าว ทั้งนี้หากมีการชี้แจงตามที่เป็นข่าวจริง ก็ขึ้นอยู่กับว่า ป.ป.ช.จะเห็นว่าฟังได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ ประธาน ป.ป.ช.คนปัจจุบัน คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ซึ่งถูกมองว่าได้มานั่งตำแหน่งนี้เพราะใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร โดยเคยดำรงตำแหน่งรองเลขานายกรัฐมนตรี คือเลขานุการรองนายกฯประวิตรและยังเคยเป็นโฆษกสตช. ในสมัยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณน้องชาย พล.อ.ประวิตร เป็นผบ.ตร.ด้วย