svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ประหาร "รูมเมท" แทงเพื่อนตายคาบ้านเช่า ชำระแค้นถูกทวงค่าไฟ

13 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลชี้ มือแทง-พวก เมาพกมีดสางแค้นสะสมหลังถูกทวงเงินเมียถูกขู่ ผิดฐานฆ่าโดยไตร่ตรอง แต่คำให้การเป็นประโยชน์ทางคดีโทษเหลือคุกตลอดชีวิต พร้อมชดใช้ญาติคนตาย 1.5 ล้าน

ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 13 พ.ย.60 ศาลอ่านพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.95/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 และญาติของนายปฐมพงษ์ ภูมิภาค อายุ 48 ปี กับนายนิยม ภูมิภาค อายุ 55 ปี สองพี่น้องที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายไพฑูรย์ หรือต้อม พวงมาลา อายุ 35 ปี ชาวอุบลราชธานี รูมเมทผู้ลงมือแทง, นายพันธิตร หรือเลิฟ ขันทอง อายุ 21 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์, นายมาโนช หรือโน้ต ทองทา อายุ 29 ปี ชาว กทม., นายอภินันท์หรือ แบ็งค์ จันทะเนาว์ อายุ 23 ปี ชาวอุบลราชธานี และนายจิระ หรือแม็ค บัวโค้ง อายุ 26 ปี ชาวร้อยเอ็ด ซึ่งทั้งหมดประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นจำเลยที่ 1- 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, บุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุสมควรโดยกระทำในเวลากลางคืน และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ โดยญาติของผู้ตายทั้งสองเรียกร้องขอให้พวกจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย

โดยฟ้องโจทก์ บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 21 ต.ค.59 พวกจำเลยบังอาจบุกเข้าไปบ้านเช่า เลขที่ 67/22 ซ.ลาดพร้าว 35 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร แล้วใช้อาวุธมีดแทง นายปฐมพงษ์ ภูมิภาค อายุ 48 ปี อาชีพขับรถขนของ และนายนิยม ภูมิภาค อายุ 55 ปี อาชีพ รปภ. สองพี่น้อง จนถึงแก่ความตาย เนื่องจากโกรธเคืองที่ถูกทวงค่าไฟฟ้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวพวกจำเลยที่แยกย้ายกันหลบหนีหลังเกิดเหตุได้ พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดี ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ซึ่งระหว่างการพิจารณาจำเลยก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว

ภายหลังจำเลยทั้งหมดมาศาล พร้อมฟังคำพิพากษาแล้ว ศาลได้อ่านตัดสิน สรุปว่า ตามคำเบิกความพยานและหลักฐานทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่านายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 โกรธเคืองที่นายปฐมพงษ์ ผู้ตาย และภรรยาได้ทวงค่าไฟฟ้าที่นายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 และครอบครัว เคยร่วมพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งมีการขู่จะฆ่าภรรยานายไพฑูรย์ จำเลยที่ 1 ด้วยที่ไม่ยอมช่วยค่าไฟ โดยคืนวันเกิดเหตุ นายไพฑูรย์มีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรากับพวกจำเลย แล้วจึงได้พากันมาถามหานายปฐมพงษ์ที่บ้านเช่า และเรียกให้นายปฐมพงษ์กับภรรยาออกมาพบแต่ไม่ยอมมา พวกจำเลย จึงบุกเข้าไปในบริเวณบ้านพักแล้วใช้มีดปลายแหลมหลายเล่มที่เตรียมมา จ้วงแทงนายปฐมพงษ์จนถึงแก่ความตาย ขณะนั้นภรรยาของนายปฐมพงษ์ก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งนายนิยมพี่ชายของนายปฐมพงษ์ที่พักอยู่ใกล้ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ถูกพวกจำเลยใช้มีดแทงเสียชีวิตไปด้วย หลังก่อเหตุพวกจำเลยพากันหลบหนีไป

เมื่อพิเคราะห์แล้ว ศาลเห็นว่าการกระทำของพวกจำเลย มีลักษณะทบทวน แบ่งงานกันทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตายทั้งสองโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จึงเป็นความผิดตามฟ้อง พิพากษาให้ประหารชีวิตนายไพฑูรย์หรือต้อม พวงมาลา อายุ 35 ปี ชาวอุบลราชธานี จำเลยที่ 1, นายพันธิต หรือเลิฟ ขันทอง อายุ 21 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์ จำเลยที่ 2, นายมาโนช หรือโน๊ต ทองทา อายุ 29 ปี กทม. จำเลยที่ 3 และนายจิระ หรือแม็ค บัวโค้ง อายุ 26 ปี ชาวร้อยเอ็ด จำเลยที่ 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 และปรับคนละ 900 บาทฐานพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ

แต่ศาลเห็นว่า คำให้การของพวกจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษให้ 1 ใน 3 จึงให้จำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้ตลอดชีวิต และปรับเหลือคนละ 600 บาท โดยให้จำเลยทั้งสี่ ต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตายทั้งสองด้วย รวม 1.5 ล้านบาท ส่วนนายอภินันท์ หรือแบ็งค์ จันทะเนาว์ อายุ 23 ปี ชาวอุบลราชธานี จำเลยที่ 4 ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานของอัยการโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักพอเพียงว่าจำเลยร่วมกระทำผิด จึงพิพากษายกฟ้องแต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

logoline