ผบช.ก.เผยรู้ผลพิสูจน์โครงกระดูกสาวลูกจ้างวัย16ที่สูญหาย

ต่อมาจึงทราบว่าถูกซ้อมอย่างทารุณจนเสียชีวิตและถูกนำศพไปฝังเพื่ออำพรางคดี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม ว่าเบื้องต้นจากการสอบปากคำพยานแวดล้อมเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เชิญตัวผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในตำบอลหนองโสน จังหวัดเพชรบุรี พร้อมลูกสาวและแฟนเก่าของผู้ใหญ่บ้านมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของน.ส.จริยาหรือไม่ โดยพยานทั้ง 3 ได้ให้การเป็นประโยชน์ถึงการหายไปของน.ส.จริยา ศรีศักดิ์ อายุ 16 ปี โดยให้การตามข้อเท็จจริงว่าตัวของน.ส.จริยา ถูก น.ส.กฤษณา หรือโมนา  สุวรรณพิทักษ์ อายุ45 ปี ซึ่งเคยเป็นผู้เข้าร่วมประกวดนางงามเวทีหนึ่ง และเป็นนายจ้างทุบตีทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายถึงชีวิตสาเหตุมาจากน.ส.จริยา ไม่ยอมทำตามคำสั่งจึงได้เกิดการทุบตีหลายครั้งจนเสียชีวิต

จากการสอบปากคำทราบว่าตัว น.ส.กฤษณาเป็นคนอารมณ์ร้อน หากไม่พอใจก็จะทำร้ายร่างกาย น.ส.จริยา เป็นประจำ โดยช่วงก่อนสงกรานต์ปี 2555 ได้ใช้กระป๋องสเปรย์ปรับอากาศ ตีไปที่ใบหน้าของน.ส.จริยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส  และไม่ได้นำส่งโรงพยาบาลจึงเสียชีวิตในวันต่อมา กลัวความผิดจึงตัดสินใจนำศพไปฝังดินใต้ต้นตาลบริเวณบ้านพักของแม่น.ส.กฤษณาในซอยศาลาลอย บ้านนามอญ หมู่7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี 

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจากคำให้การของพยานทั้ง 3 ราย เพื่อขอศาลออกหมายจับนายจ้างคนดังกล่าว ในฐานะความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ในส่วนของการตรวจสอบดีเอ็นเอของศพที่ขุดพบนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพของน.ส.จริยา หรือไม่ แต่จากแนวทางการสืบสวนประกอบกับคำให้การของพยานทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่าศพปริศนาที่อยู่บริเวณดังกล่าวเป็นของน.ส.จริยาจริง คาดว่าในวันที่ 6 พฤศจิกายนจะสามารถระบุว่าดีเอ็นเอดังกล่าวจะตรงกับน.ส.จิรยาหรือไม่ 

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป และชุดสืบสวนกองกำกับการ 5 ลงพื้นที่ติดตามตัวน.ส.กฤษณา เพื่อมาสอบปากคำข้อเท็จจริงต่อไป 

ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า ได้เร่งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เร็วที่สุดไม่ว่าจะเป็นข้อหาใดๆก็ตาม สำคัญที่สุดคือหาหลักฐานมัดตัวคนที่เป็นลงมือฆ่าเหยื่อให้ได้ ซึ่งหลักฐานบางส่วนคงต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งตรวจเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบกับพ่อแม่ของเหยื่อที่หายตัวไป เพื่อที่จะทราบว่าหญิงที่หายตัวไปเป็นคนเดียวกับโครงกระดูกที่พบหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลภายในสัปดาห์หน้านี้

อย่างไรก็ตามคดีนี้ได้กำชับให้ทำสำนวนอย่างรอบคอบเพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นมานานถึง 5 ปีแล้ว หลักฐานที่ได้จะต้องทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้รับโทษ

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า คดีนี้ตำรวจเร่งพิสูจน์หาความเกี่ยวเนื่องของคดีให้ได้ทั้งหมดก่อน ซึ่งเบื้องต้นชุดสืบสวนสามารถบังคับให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจนนำไปสู่การขุดศพขึ้นมาพิสูจน์ ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย ในชั้นนี้ถึงแม้ว่าผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับศพบางคนได้หลบหนีไป ก็ไม่กระทบกับคดีและเชื่อว่าจะตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ทันทีที่หลังจากพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับ ส่วนจะดำเนินคดีกับใครในข้อหาใดบ้างนั้นคงใช้เวลาอีกไม่นาน