"ซีเกมส์ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง นอกจากเจ้าภาพจะจัดกีฬาที่ตนเองถนัดเป็นหลัก และตัดอีเวนท์ที่ชาติอื่นถนัดออกไป หลายกีฬาเราต้องแบ่งนักกีฬาไปแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ไต้หวัน ซึ่งชิงชัยในเวลาเดียวกันด้วย รวมทั้งแม้ว่าหลายกีฬาจะเป็นกีฬาโอลิมปิกก็จริง แต่เจ้าภาพก็ไม่ได้จัดครบทุกอีเวนต์ จำกัดอีเวนต์ อย่างเช่น ยกน้ำหนักในโอลิมปิกมีทั้งหมด 15 อีเวนท์ ในซีเกมส์กลับจัดแค่ 5 รายการเท่านั้น" นายณัฐวุฒิ กล่าว
รองผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า การที่เจ้าภาพมาเซียจัดกีฬาที่ตนเองถนัด ทำให้การเป็นเจ้าเหรียญทองในภาพใหญ่ คงเป็นเรื่องยาก เรื่องนี้เราทราบมาตั้งแต่ต้น แต่เป้าหมายของไทย คือ การเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาสากลให้ได้ จึงอยากให้นักกีฬาไทยทุกคนโฟกัสไปที่การแข่งขันให้มากที่สุด อย่าไปสนใจปัญหารอบด้านมากนัก จนมาบั่นทอนสมาธิ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้
ทั้งนี้สำหรับยอดเหรียญรางวัลในกีฬาซีเกมส์เฉพาะกีฬาสากล ที่มีจัดในโอลิมปิกเกมส์ ส้ินสุดวันที่ 25 ส.ค. ปรากฎว่า ทัพนักกีฬาไทย ยังรั้งอันดับ 4 ทำไปได้แล้ว 26 เหรียญทอง ส่วนอันดับ 1 เป็นของ เวียดนาม 34 เหรียญทอง อันดับ 2 มาเลเซีย 33 เหรียญทอง อันดับ 3 สิงคโปร์ 30 เหรียญทอง