ชาวบ้านสุดทน รื้อรั้วหลังกรุงธนคอมเพล็กซ์ หวั่นเหตุฉุกเฉินรถเข้าไม่ได้

จากกรณีกลุ่มชาวบ้านด้านหลังสถานประกอบการกรุงธนคอมเพล็กซ์ บริเวณซอยรัชดา-ท่าพระ 4 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.ได้เคยเข้าร้องทุกข์ต่อ นายมนัส ประจวบจินดา ผอ.เขตธนบุรี ให้เป็นสื่อกลางช่วยประสานขอพื้นที่ความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร ให้รถใช้แล่นสัญจรผ่านบริเวณด้านหลังสถานประกอบการได้ กระทั่งมีการนัดเจรจาพูดคุยกันไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา  17.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม นายพรชลัช เชาวะเจริญ อายุ 59 ปี พร้อม นางอิทธิรา เรืองอยู่ อายุ 56 ปี แกนนำได้พาชาวบ้านประมาณ 100 คน ซึ่งพักอาศัยอยู่ด้านหลังสถานประกอบการกรุงธนคอมเพล็กซ์ เข้าทำการรื้อรั้วเหล็กสีเขียว ระยะแนวกั้นราว 50 เมตร ที่ทางสถานประกอบการ นำมากั้นเอาไว้ออกไป 1 ข้าง เพื่อเปิดความกว้างของถนนให้รถใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวก โดยชาวบ้านได้ช่วยกันใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถนำรั้วดังกล่าวออกได้จนหมด และไม่มีการปะทะกันกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกรุงธนคอมเพล็กซ์แต่อย่างใด
นางอิทธิรา กล่าวว่า พวกตนยอมรับว่ารวมตัวมารื้อรั้วออกและยินดีต่อสู้หากมีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรผ่านไปมาได้อย่างสะดวกนานนับร้อยปีมาแล้ว ขณะที่ทางสถานประกอบการเพิ่งจะเข้ามาซื้อที่ดินได้เมื่อประมาณ พ.ศ.2532 นี้นี่เอง ตามปกติชาวบ้านจะใช้ถนนดังกล่าวไปมาระหว่างชุมชน เข้าออกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนรัชดา-ท่าพระ และ ถนนเทดไทย ได้อย่างสะดวกสบายแต่ถ้าหากถนนบริเวณนี้โดนปิดกั้นหรือบีบให้มีพื้นที่แคบลงก็จะต้องลำบากในการเดินทางสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก
ด้าน นายพรชลัช กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามเข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการมาแล้วแต่คุยไม่รู้เรื่อง กระทั่งต้องเข้าไปพึ่งพาเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตธนบุรี โดยประสานทางผู้อำนวยการเขตเข้ามาเป็นคนกลางช่วยเจราจา แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งพวกตนเห็นว่าหากเกิดเหตุไฟไหม้ หรือมีประชาชนบาดเจ็บต้องเรียกรถกู้ภัย ทางเจ้าหน้าที่รถฉุกเฉินเหล่านั้นก็จะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพวกตนได้ จึงรวมตัวกันมาเพื่อรื้อรั้วเหล็กที่กั้นเป็นแนวเอาไว้ออก จำนวน 1 ข้าง เพื่อเปิดทางให้รถเข้าออกได้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย.