"บิ๊กป้อม" ชี้บุกปล้นเต็นท์รถ เป็นกลุ่มเดิม

รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปล้นเต้นท์รถยนต์ที่ จ.ปัตตานี เพื่อนำไปก่อเหตุความรุนแรงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เตรียมระเบิด และการไปก่อเหตุปล้นรถดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อหังกามาก แต่ทางเจ้าหน้าสามารถจับกุมรถที่ปล้นมาได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 1 คัน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการยึดรถคืน

ขณะเดียวกัน การก่อเหตุของกลุ่มดังกล่าว อย่าไปมองว่ามีช่องโหว่ เพราะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้กว้าง โดยพื้นที่ก่อเหตุใครจะไปคาดคิดว่า จะลงมือที่ จ.สงขลา แต่ทางเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ประมาท เพราะหลังเกิดเหตุก็สามารถสกัดจับ จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิม ขณะที่ มาตรการการป้องกันความรุนแรง ได้เตรียมการได้ดีอยู่แล้วในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และจ.นราธิวาส จนทำให้ผูก่อเหตุเปลี่ยนมาก่อเหตุ ที่อ.เทพา จ.สงขลา แทน

พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่าง ไม่ให้มีการก่อเหตุ จนทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่สามารถก่อเหตุได้ ซึ่งครั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ ก็จะมีการไปก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
ขณะที่ รมช.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร บอกว่า ต้องยอมรับว่าคนจ้องก่อเหตุรุนแรง และคิดวิธีการก่อเหตุที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆ โดยเราเน้นย้ำ ให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมรับมือวิธีการพวกนี้ไว้ด้วย เพราะการก่อเหตุใหม่ๆ ครั้งนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และพวกที่ก่อเหตุยังมีตัวตนอยู่ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องเพิ่มความระมัดระวัง และช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่

ขณะเดียวกัน ขออภัยที่บางพื้นที่มีช่องโหว่ให้ผู้ก่อเหตุหาจังหวะลงมือทำ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามดูแลอุดช่องว่างเหล่านี้ แต่ผู้ก่อเหตุก็สามารถทำได้

นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิม อย่างบีอาร์เอ็นก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเชื่อมโยงกลุ่มที่อยู่นอกวงกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ โดยนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้กำชับ ไปยัง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะอาจมีคนตกหล่น และอยู่นอกวงการพูดคุย ดังนั้นต้องเชิญเข้ามาในการพูดคุยสันติสุข เพื่อจะได้มีประโยชน์มากขึ้นในการแก้ไขปัญหาพื้นที่