รุ่น 58 กก.ชาย เทวินทร์ ได้บายในรอบแรก รอบ 2 เอาชนะ สตานิสลาฟ เดนิซอฟ จากรัสเซีย 45-28 ก่อนที่รอบ 8 คน จะแพ้ให้กับ โมฮัมหมัด คาเซมี จากอิหร่าน 8-10 ส่วนอีกสาย รามณรงค์ รอบแรก เอาชนะ ทาราส มัลเชนโก จากยูเครน 44-30 รอบ 8 คน เอาชนะ โอมรร์ เลกฮัล จากโมร็อกโก 36-27 รอบรองชนะเลิศ พลิกแซงท้ายเกมจากการหมุนตัวเตะใส่ เฮซุส ตอร์โตซา คาเบรรา จากสเปน 18-12 เข้ารอบชิงชนะเลิศ สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่โชคร้ายอย่างมาก เมื่อ "จูเนียร์" จำเป็นต้องถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสะสมมาจากรอบก่อนๆ ทำให้พลาดโอกาสลุ้นแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย ได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น รับเงินรางวัล 3,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 98,000 บาท)
รุ่น 49 กก.หญิง "เทนนิส" พาณิภัค โชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องได้บายรอบแรก รอบ 2 เอาชนะดินา ปอร์ยูเนส นักกีฬาผู้ลี้ภัย ที่แข่งขันในนามสหพันธ์เทควันโดโลก 20-0 รอบ 8 คน เอาชนะ อา มิน ฮา จากเกาหลีใต้ 18-2 รอบรองชนะเลิศ เอาชนะ ติจานา บอกดาโนวิช จากเซอร์เบีย 33-3 เข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ คิม โซ ฮุย จากเกาหลีใต้ ซึ่ง "เทนนิส" เคยแพ้มาในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล แบบเฉียดฉิวจน พาณิภัค ต้องหล่นไปเล่นในรอบชิงเหรียญทองแดงแทน แต่ครั้งนี้ จอมเตะสาวไทย แก้แค้นได้สำเร็จ ไล่เตะเอาชนะไป 8-6 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมเงินรางวัล 5,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 163,000 บาท) และเป็นการคว้าแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รายการแรกของจอมเตะสาวสุราษฎร์ธานี อีกด้วย สรุปทีมเทควันโดไทย คว้ามา 1 ทอง กับ 1 เงิน
"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันรายการนี้ประเทศเจ้าภาพจะเลือกเชิญนักกีฬาจากชาติที่มีผลงานดี ซึ่งภาพรวม สมาคมฯ รู้สึกดีใจและพอใจกับผลงานซึ่งเป็นรายการระดับนานาชาติอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยได้แชมป์ เวิลด์ กรังซ์ปรีซ์ และยังได้ทั้งเหรียญทองและเหรียญเงินอีกด้วย ส่วน "น้องเทนนิส" เอง ตอนนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ของโลกแล้ว และจะเป็นการสร้างกำลังใจอย่างดีก่อนที่จะไปสู้ศึกใหญ่ 2 รายการ คือ กีฬามหาวิทยาลัยโลกและกีฬาซีเกมส์ ที่จะแข่งขันในเวลาใกล้เคียงกันช่วงเดือน ส.ค.นี้ อีกด้วย