ทำไมถึงมา...? เสียงชาวบ้านที่ไปให้กำลังใจ "ยิ่งลักษณ์"

วันแถลงปิดคดี "จำนำข้าว" ของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" หลายฝ่ายจับตาดูกองเชียร์ ที่จะมาให้กำลังใจ บางคนสงสัยว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงต้องมาให้กำลังใจ รวมไปถึงข้อกล่าวหาเรื่องเกณฑ์มา เราพาไปทำความรู้จักว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาถึงอยากมาในวันนี้

นางกอบศิริ นิลแก้ว อายุ 65 ชาว จ.เชียงใหม่ วันนี้ตนมากับกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อให้กำลังใจอดีตนายกฯด้วยตัวเอง โดยออกจากเชียงใหม่ตั้งแต่ 3 ทุ่ม และมาถึงหน้าศาลฎีกา 7 โมงเช้า แม้ว่าตนจะมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่คงไม่หวังอะไรมาก เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า อดีตนายกฯ ไม่ชนะคดีนี้ แต่ทางตนและเพื่อนๆในกลุ่มก็เห็นในทางเดียวกัน เห็นถึงความไม่ยุติธรรม จึงร้อนใจต้องมาให้กำลังใจ ในส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการว่าจ้างมวลชนนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีการว่าจ่างมา ใช้เงินไม่ถึง 500 บาทก็เดินทางมาได้ วันนี้ต้นเดือนลูกโอนให้ก็พากันเหมารถกับกลุ่มกันอีก ในส่วนวันที่ 25 ส.ค. วันตัดสินคดีจำนำข้าง ตนก็จะมาอีก และจะชวนเพื่อนๆมาด้วย แม้ว่ารู้อยู่แก่ใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ชนะคดีก็ตาม แต่ก็จะมาให้กำลังใจ

น.อ.ต.เรืองวิทย์ พิศพาร อายุ 73 กล่าวว่า บ้านตนอยู่กรุงเทพ เดินทางมาถึงศาลฎีกาช่วง 8.30 น. โดยไม่มีใครจ้าง ที่รักความยุติธรรม ส่วนคนที่ให้ข่าวว่ามีการจ้างมวลชน ก็พูดให้ร้ายได้ ใครเขาจะจ้างกันประชาชนมากขนาดนี้คงใช้เงินมหาศาล ยืนยันว่าพวกเรามากันเอง แถมห่อข้าวมากินกันเองด้วย ทั้งนี้ตนเชื่อว่าวันที่ 25 ส.ค. จะมีประชาชนมามากกว่านี้ ในส่วนความคาดหวังผลการตัดสินน้้น ตนว่าทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ คงไม่มีโทษรุนแรง นายกฯคงฟังเสียงประชาชน คงไม่ทำอะไรรุนแรง ทางที่ดีน่าจะถึงจุดรอมชอมกันได้ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเรื่องชนะคดีก็คงยาก แต่คงไม่เอาเป็นเอาตายเอาอดีตนายกฯไปติดคุก

ด้านชาวบ้านจากชลบุรีคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนมาถึงเวลา 3.30 น. โดยเหมารถตู้มากับกลุ่มเพื่อน ยืนยันว่าไม่มีการว่าจ้าง รับรองได้ มีแต่การควักกระเป๋าเองทั่งนั้น เราแชร์กันออกค่ารถเอง ห่อข้าวมาทานเองด้วย เชื่อว่าคนที่ปล่อยข่าวการจ้างประชาชน เขาไม่หวังดีกับพวกเราใส่ร้ายตลอด ยืนยันว่าการมาในวันนี้ไม่มีแกนนำ ประชาชนมาด้วยใจ ในส่วนของคดีนี้ เราก็หวังว่าอดีตนายกฯจะชนะคดี แคล้วคลาดจากข้อกล่าวหา เพราะเขาช่วยประชาชนแล้วก็โดนคดี ถ้าเกิดว่าติดคุก ตนก็เสียใจ ทำใจลำบาก ตนเชื่อว่าประชาชนค่อนประเทศเห็นใจ อดีตนายกฯ แม่ว่าความหวังชนะคดีนี้จะน้อย แต่ก็ยังคงให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ตนเชื่อว่าถ้าศาลใช้หลักนิติธรรมจริงๆ น.ส. ยิ่งลักษณ์ จะชนะคดีแน่นอน

ขณะที่นางศิริพร ใจอารีย์ จากขอนแก่น อายุ 61 ปี กล่าวว่า ตนเสียค่ารถตู้มากับเพื่อน คนละ 500 มาถึงตั้งแต่ 5.00 น. แต่ขอรับรองว่าไม่มีใครจ้าง ใช้เงินส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งคนที่ปล่อยข่าวว่ามีการจ้างมวลชนนี้ก็ใส่ร้ายเรา ยืนยันว่าไม่มี อย่างนั้นแน่นอน 100% ทั้งนี้คดีดังกล่าวตนหวังว่า อดีตนายก ได้รับความเป็นธรรมจากผู้มีอำนาจ เพราะถ้าความเป็นธรรมระดับผู้นำไม่มี ประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร นโยบายอย่างนี้ รัฐบาลไหนก็ทำได้ ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ผิด เราถึงออกมาให้กำลังใจ ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าต้องมาอีกในวันทที่ 25 ส.ค. แม้ไม่หวังว่าชนะคดีก็ตาม แค่ก็ยังมาให้กำลังใจอดีตนายกฯ ซึ่งเรื่องแล้วแต่ผู้มีอำนาจ เขาทำอะไรก็ได้ ยืนยันว่าเรามาเพื่อความเป็นธรรม ไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะคดี

ด้านนายสถาพร รักคิด อายุ 76 ชาวขอนแก่น กล่าวว่าตนเหมารถมากับเพื่อน ไม่มีการว่าจ้าง มาด้วยใจ เพราะความยุติธรรมไม่มี เราเลยออกมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม การปล่อยข่าวว่ามีการจ้างมวลชนเป็นแค่การใส่ร้ายกัน เอาความดีเข้าฝ่ายตัวเอง ตนคิดว่าคดีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ผิด และคำตัดสินของคดีนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินคดีต่อไป ถ้าเกิดเอาผิด ก็เอาผิดรัฐบาลก่อนๆที่ออกนโยบายช่วยเหลือประชาชนด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ต้องขาดทุนอยู่แล้ว ทำแบบนี้สังคมก็จะอยู่ได้ ทำให้ชาวนาพลิกฟื้นขึ้นมา ทั้งนี้ในวันที่ 25 ส.ค. นี้ยังไม่ชัวร์ว่าตนจะมาหรือไม่ แม้วันนี้ก็ไม่ได้วางแผนจะมา แต่ก็ยังมา แต่คิดว่าในวันสุดท้ายประชาชนจะมาเยอะกว่าวันนี้

ที่มา : ข่าวคมชัดลึก