svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบแล้ว 2 โจรลุงหลาน เจาะตู้ "เอทีเอ็ม" กวาด 2 ล้านหนีร่วมสัปดาห์

15 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจสืบสวนภาค 4 จับได้แล้ว เป็นโจรสองลุง หลาน ใช้แก๊สเจาะตู้ "เอทีเอ็ม" เอาเงิน 2 ล้านหนีร่วมสัปดาห์

ชุด สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค จับกุม นายพลธวัช โคมทอง หรือโจ้ อายุ 30 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางเป็น เงินสดจำนวน 1,123,000 บาท รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีบอร์น ชะแลงถังแก๊ส ถังลม ชุดสายแก๊สพร้อมหัวเป่า เสื้อผ้าของผู้ต้องหาสวมใส่วันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ 2 คัน

หลังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านเลื่อม ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะหอบเงินกว่า 2 ล้านบาทหลบหนีไปนานเกือบ 1 สัปดาห์ โดยการแถลงข่าวครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลงข่าว เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย

หลังผู้จัดการศูนย์บริหารและจัดการธนาคารกรุงไทย จ.อุดรธานี พบว่าตู้ถูกงัดและตัดด้วยแก๊สลักเอากล่องบรรจุเงินชั้นที่ 2 และ 3 ทั้งสองชั้นบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ชั้นละ 1 ล้านบาท จึงได้แจ้งไปยังตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ กระทั้งพบว่า ตู้เอทีเอ็ม ด้านหลังตู้มีร่องรอยงัดกุญแจคล้องประตูหลัง ตัวของตู้เอทีเอ็มมีร่องรอยตัดด้วยแก๊ส กว้าง 20 ซม. ยาว 60 ซม. เมื่อตรวจสอบภายในพบว่า กล่องบรรจุเงินสดที่ชั้น 2 และ 3 หายไป สายสัญญาณถูกตัด ประตูรั้ว โรงเรียนถูกทุบกุญแจพังเสียหาย
นายพลธวัช ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ทำอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง แต่เนื่องจากมีหนี้สินและสภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ประกอบกับถูกทวงค่างวดรถจากไฟแนนท์บ่อยครั้ง ซึ่งตนได้ค้างค่างวดมาติดต่อกันหลายงวดแล้ว จึงเกิดความเครียด จึงต้องการหาเงินไปชำระค่างวดรถ จึงได้วางแผนในการงัดตู้เอทีเอ็ม โดยชักชวน หลานชายในการก่อเหตุ

ภายหลังจากก่อเหตุได้นำเงินไปซื้อบ้านในพื้นที่อำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี ในราคา 800,000 บาท โดยจ่ายไปแล้ว 500,000 บาท ซื้อรถจักรยานยนต์ จำนวน 120,000 บาท ส่วนที่เหลือได้นำไปซื้อทีวี ตู้เย็น และเคื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งทองคำรูปพรรณ โดยก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก

เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแค่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อพ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร

logoline