ล่าสุด นายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความ นักเขียน และคอลัมนิสต์ชื่อดัง เปิดเผยผ่านรายการ คมชัดลึก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2559 ว่า กรณีที่ตำรวจระบุว่า เจอยารักษาโรคซึมเศร้าภายในรถของผู้ต้องหารายนี้ เรื่องนี้จะต้องดูว่า เขาขับรถในขณะที่มีร่างกายสมบูรณ์หรือไม่ เพราะในการดำเนินคดี จะต้องดูว่าครบองค์ประกอบในการกระทำความผิดคือ คนที่ขับรถชนจะต้องมีสติสัมปชัญญะ ครบถ้วนหรือไม่ มีการกระทำในทางกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะต้องมานั่งดูก่อนว่าครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งการที่พบยาในรถนั้นจะถูกดำเนินคดี หรือข้อยกเว้น จะต้องมาพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสงสัยว่าทำไมตำรวจไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในตอนเกิดนั้น นายวิรัช กล่าวว่า จริง ๆโดยหลักในวันที่เกิดเหตุ ตำรวจมีสิทธิ์ในการตรวจร่างกายของผู้ต้องหา ในอดีตเป็นเรื่องของการขอความร่วมมือ แต่ตอนนี้เรามีกฎหมายระบุว่า ในกรณีที่ขอตรวจแล้วปรากฏว่าไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะเข้าข้อสันนิษฐานได้ว่า มีการดื่มมา ก็ต้องยอมรับ ถ้ามีข้อสันนิษฐานอย่างนั้น ซึ่งถือว่าเป็นผลร้ายกับทางผู้ต้องหา ซึ่งเรื่องนี้จะต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในขณะนั้น เป็นคนละส่วนกับการขับรถโดยประมาท
"การที่ตำรวจบอกว่ามีการดมกลิ่นแล้วไม่ได้ดื่มมานั้น คือจริงๆเอาตามหลักจะต้องมีการขอตรวจ แต่ถ้าตำรวจจะอ้างอย่างนั้น ก็อาจจะเป็นยุทธวิถีการทำงานของตำรวจ เป็นการใช้ดุลยพินิจ" นายวิรัช ระบุ