svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับโจร 5 วิ ตระเวนชิงทรัพย์

25 กุมภาพันธ์ 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล4(บก.น.4) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.พ. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น4 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.ส.น.หัวหมาก พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.ส.น.บึงกุ่ม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนที่เร็ว บก.น.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายชินกฤต ยะก๊บ อายุ 18 ปี และ นายหนึ่ง(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอ็มเอสเอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 3กธ 8023 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียบ 4 กด 6472 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ110 หมายเลขทะเบียบ 3 กอ 723 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอหมายเลขทะเบียบ วษพ 971 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คัน หมวกนิรภัยสีดำแบบเต็มใบจำนวน 1 ใบ อาวุธขวานสั้น จำนวน 1 ด้ามนาฬิกายี่ห้อคาสิโอ จีช็อค จำนวน 1 เรือน โดยสามารถจับกุมได้ที่เชิงสะพานข้ามคลองพังพวยใกล้แยกที่ดิน ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. วันที่ 23 ก.พ. เวลา 22.40 น.

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 23.30 น. ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ใช้รถจักรยานยตน์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีดำ เป็นยาพาหนะในการก่อเหตุโดยมีนายหนึ่งเป็นคนขับ และนายชินกฤตเป็นคนซ้อน ได้ใช้อาวุธขวานขู่บังคับจี้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์สีดำ หมวกนิรภัยและนาฬิกาข้อมือของผู้เสียหา แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่หน้าปั้มน้ำมันร้าง ระหว่างซอยนวมินทร์22-แยกที่ดิน แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พื้นที่ สน.บึงกุ่ม ต่อมาวันที่ 21 ก.พ. เวลา 21.30 น. นายชินกฤต ได้ร่วมกับเด็กชายสอง(นามสมมุติ)อายุ 14 ปี ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีดำ โดยมีเด็กชายสองเป็นคนขับ ส่วนนายชินกฤตเป็นคนซ้อนและได้ใช้วิธีในลักษณะเดิมก่อเหตุขู่บังคับจี้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ ของผู้เสียหาย จากบริเวณแยกลำสาลี แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. แล้วหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุไปได้ประมาณ 20 นาที ต่อมา เวลา 21.50 น.วันเดียวกัน นายชินกฤตใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นมีโอ ที่ได้จากการก่อเหตุบริเวณแยกลำสาลี เป็นพาหนะและใช้วิธีการในลักษณะเดิมก่อเหตุก่อเหตุขู่บังคับจี้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ สีน้ำเงิน โดยหลังจากก่อเหตุแล้วนั้นผู้ต้องหาได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้


กระทั่งในวันที่ 23 ก.พ. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจม บก.4 กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองพังพวยใกล้แยกที่ดินถนนนวมินทร์แขวงคลองจั่นเขตบางกะปิ กทม. พบรถจยย.ต้องสงสัยขับมาบริเวณดังกล่าวด้วยท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจค้นพบว่ารถคันดังกล่าวถูกโจรกรรมมา จึงได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัวนายชินกฤตและนายหนึ่งได้พร้อมขยายผลตรวจยึดของกลางทั้งหมด ก่อนนำตัวสอบสวนที่สน.ลาดพร้าว


พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุทุกครั้งมักจะรับประทานยาโซแลมผสมกับน้ำอัดลมเข้าไป แล้วจะนำขวานไปใช้ในการข่มขู่เหยื่อที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษาอาชีวะเนื่องด้วยมักจะใช้รถจยย.ที่นิยมในท้องตลาด เมื่อเจอเหยื่อจะนำขวานออกมาข่มขู่พร้อมกล่าวว่าจะให้เวลาเหยื่อเพียง5วินาทีในการวิ่งหนี หากเหยื่อไม่ยอมทำตามก็จะใช้ขวานฟันทันที หลังจากนั้นจะนำรถจยย.ขับหลบหนีไปทั้งนี้เจ้าตัวยังอ้างอีกว่าตัวยาที่ใช้เสพนั้นมีคนซื้อยาให้โดยได้ซื้อมาจากคลินิกแห่งหนึ่ง


อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การของผู้ต้องหา ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกในแก๊งนี้มีพฤติกรรมอุกอาจ รวมทั้งเมื่อตรวจสอบประวัตินายชินกฤต พบว่าเคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธมีด ท้องที่สน.บางชันเมื่อปี 57 แล้วเพิ่งก่อเหตุพรากผู้เยาว์ท้องที่สน.ประเวศ เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ส่วนนายหนึ่ง มีประวัติต้องคดีปล้นทรัพย์ในท้องที่ สน.ประเวศ 1 ครั้ง และ สน.ร่มเกล้า 2 ครั้ง เมื่อปี 58 ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เข้าตรวจสอบว่าร้านใดหรือเป็นคลินิกตามที่ผู้ต้องหาอ้างจริงหรือไม่ และจะเร่งตรวจสอบร้านที่รับซื้อของโจรทั้งหลายให้สิ้นซาก เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์และรับของโจรก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รรท.ผบช.น. กล่าว

logoline