จับพระ-หมอปลอม อ้างรักษาคนป่วย
กำแพงเพชร -เจ้าหน้าที่ทหาร-ฝ่ายปกครอง บุกวัดพานทองศิริมงคล เชิญพระรักษาผู้ป่วย-บุตรสาวพกเสื้อกาวน์ติดชื่อแพทย์หญิง สอบสวน หลังชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรม มีพระรักษาคุณไสย-หมอปลอม
ก่อนหน้าเมื่อเวลา15.00 น.ร.ต.อ.วัชรินทร์ ราชวงศ์ รอง สวป.สภ.พรานกระต่าย ปลัดอำเภอพรานกระต่าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร กกล.รส.พล.ร4 ,ชุดปฏิบัติการมวลชนอำเภอพรานกระต่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรานกระต่าย ร่วมตรวจสอบกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ว่ามีพระแอบอ้างเรื่องการรักษาว่าสามารถรักษาคนที่ถูกคุณไสยที่วัดพานทองศิริมงคล หมู่ที่ 4 ตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เบื้องต้น ภายในวัดพบพระปรีดา บุตรคุณ และพบนางสาวกชกร บุตรคุณ พร้อมเสื้อกาวน์ภายในกุฏิ จึงเชิญตัวมาที่สภ.พรานกระต่าย และตรวจสอบหนังสือสุทธิของพระปรีดาซึ่งออกเมื่อปี 2543 เป็นหนังสือสุทธิแบบเก่าที่ไม่ใช้แล้ว และเมื่อของตรวจสอบหนังสือสุทธิแบบใหม่ก็ไม่สามารถนำมาแสดงได้ โดยอ้างว่าได้สึกไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ที่ผ่านมาเพื่อไปรักษาโรคผิวหนังประมาณ 2 สัปดาห์ และได้บวชกลับเข้ามาใหม่ที่วัดสิงห์คูยาง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ทางเจ้าคณะตำบลเขาคีริสจึงได้ถ่ายรูปส่งภาพไปให้ทางวัดดู และตรวจสอบทะเบียน ไม่พบประวัติของพระปรีดา ซึ่งยังได้อ้างชื่อพระอุปชาและเป็นชื่อที่ไม่ถูกต้อง
พระปรีดาให้การว่า บวชพระปี 2542 ที่วัดบ้านชาติ อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ได้สึกไปรักษาตัวโรคผิวหนังและกลับมาบวชใหม่ ญาติโยมได้นิมนต์ให้ไปอยู่ที่วัดใหม่เสรีธรรม อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ก่อนถูกนิมนต์ให้มาจำวัดอยู่ที่วัดพานทองศิริมงคล ตำบลเขาคีริส อำเภอพรานกระต่าย ที่จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2559ที่จะถึงนี้ มีญาติโยมมาหาให้รักษาอาการป่วยทั่วไป ส่วนวิธีรักษาก็ใช้น้ำมนต์อาบบ้าง ใช้มีดหมอ เคาะไปตามขา แก้ปวดแก้เมื่อย คิดค่าครู 114 บาท อาบน้ำมนต์ 20 บาท ดูดวง 20 บาท เพื่อสมทบทุนไปสร้างโบสถ์
จากการสอบสวนเบื้องต้นตามที่พระปรีดา แอบอ้างว่าได้บวชที่วัดสิงห์ครูยาง จังหวัดลพบุรี นั้น ได้รับการยืนยันว่าไม่มีการบวชให้กับรูปดังกล่าวแต่อย่าง ใด จะได้แจ้งข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เนื่องจากไม่ได้เป็นพระ จึงไม่ต้องทำการสึก ส่วน นางสาวกชกร บุตรคุณ ที่ตรวจพบเสื้อกราวลักษณะคล้ายเสื้อของแพทย์นั้น นางสาวกชกร อ้างว่าเสื้อดังกล่าวเพื่อนรุ่นพี่ได้ทำให้ใช้สำหรับเวลาข้าม ไปทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่ประเทศเมียนมาร์ จึงต้องปักชื่อเป็น แพทย์หญิง จะสะดวกต่อการตรวจสอบของทหารพม่า แต่ตนไม่ได้จบหรือเรียนแพทย์มาแต่อย่างใด และกรณีพบเสื้อกาวน์ดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายการกระทำผิด ตามกฎหมายใด และไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ และจากการตรวจสอบ นางสาวกชกร ไม่พกบัตรประชาชน จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับตามกฏหมายต่อไป