ค่าเสียหายทางแพ่ง คดี "แพรวา"

น.ส.แพรวา ขณะเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนกับรถตู้โดยสาร วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อ 27 ธ.ค.2553 และถูกนำส่งฟ้องศาลเพื่อให้รับผิดทางอาญา
ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อ 31 สิงหาคม 2555 ว่า จำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้เป็นเวลา 3 ปี โดยคุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุก 3 เดือน พร้อมให้ทำงานบริการสังคมด้วยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง รวมทั้งห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้อง หลังไม่สามารถนำสืบได้ว่าใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่
ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษา 22 เมษายน 2557 แก้โทษจากรอลงอาญา 3 ปี เพิ่มเป็นรอลงอาญา 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลา 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ขณะที่จำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี จนเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อ่านคำสั่งศาลฎีกาที่สั่งไม่รับคำฎีกาของจำเลย เป็นผลทำให้คดีความทางอาญาสิ้นสุด โดย น.ส.แพรวา ต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
สำหรับคดีแพ่ง ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตยื่นฟ้องพ่อ-แม่ ของ น.ส.แพรวา เพราะขณะกระทำความผิดยังเป็นเยาวชน มีการเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 120 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลแพ่งเคยสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอผลทางคดีอาญา กระทั่งศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาในวันนี้ เพื่อชดเชยให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย แม้ว่าจำนวนเม็ดเงินจะไม่สามารถแลกได้กับชิวิต แต่ก็เป็นอุทาหรทำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องมีความรับผิดชอบ