ดราก้อน ออโต้เพ้นท์ ..เราเป็นหนึ่งเพราะบ้ายอ

"ฐายิกา วลัณธัญธร" หรือ"เจ๊พัช" เจ้าของธุรกิจและกรรมการผู้จัดการ และ "กนกนภัส ธำรงเทพพิทักษ์" ผู้จัดการทั่วไป คือหญิง 2 คนที่เริ่มทำธุรกิจนี้เมื่อเดือนกันยายน 2554 ที่เริ่มโดยเดินแจกโบรชัวร์ที่โลตัส เมื่อตัดสินใจเริ่มตั้งบริษัท หลังจากที่"เจ๊พัช" รับ"อู่ซ่อมรถ"มาจากพี่ชายที่เลิกทำพราะไปไม่ไหว เนื่องจากเป็นอู่ซ่อมรถที่เธอบอกว่า"อู่เพิงหมแหงน" ซึ่งต่างจากทุกวันนี้ที่"ดราก้อน ออโต้เพ้นท์" เป็นอู่ซ่อมรถมาตรฐาน สะอาด มีระบบทำงานแบบมืออาชีพ
เจ๊พัชเริ่มทำธุรกิจแบบครูพักลักจำ
"ก่อนปี 2554 เราสองคนสมองกลวงเรื่องรถ ความรู้เรื่องรถตอนนั้นเป็นศูนย์ ดังนั้น เมื่อตัดสินใจทำต่อจากพี่ชาย เราก็สอบถามไปทั่วว่าอู่ไหนที่เก่งที่สุด เจ๋งสุดในกระบี่ ก็มีคนบอกว่า"อู่โกแดง" เราก็ไปขอความรู้ แต่เขากลับบอกว่าอย่าทำเลย ทำไม่ไหวหรอก" เจ๊พัชเล่า และบอกว่า แต่เมื่อตัดสินใจทำ เธอก็ลงทุนไปขอเรียนเรื่องสีกับบริษัทสี และทำไมทำมาก็มารู้ตัวว่าตกหลุมรักธุรกิจนี้ไปแล้ว
"คือพอทำแล้วคนมารับรถมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย พี่มันคนบ้ายอ ก็เลยทำต่อ" เจ๊พัชเล่าอย่าสนุกด้วยภาษากลางปนใต้ที่เรียกกันว่า"ทองแดง"

เมื่อตัดสินใจทำอู่ซ่อมรถเมื่อ 4 ปีก่อน ด้วยการเดินแจกโบรชัวร์และเสียบกระจกหน้ารถคนที่มาซื้อของที่โลตัส ในเดือนแรกที่เปิด ก็มีรถมาซ่อม 10 คัน ซึ่งอาจจะถือว่า"มาก"สำหรับ"หน้าใหม่" แต่ในแง่ของการทำธุรกิจ ก็มองไม่เห็นอนาคต เพราะหากอู่ไหนที่ไม่มีบริษัทประกันให้เข้ามาเป็นอู่ในเครือ ก็ยากที่จะมีลูกค้า เธอจึงวิ่งเข้าหาบริษัทประกันเพื่อเสนอผลงานให้เห็น และจากบริษัทแรก ในวันนี้ "ดราก้อน ออโตเพ้นท์" มีบริษัทประกันเป็นคู่ค้ามากถึง 15 บริษัท
"ตอนนี้บางบริษัทติดต่อเรามาเอง เพราะเจ้าของรถบอกว่าถ้าไม่มีดราก้อนก็จะไม่ทำประกัน" เจ๊พัชบอก
ถึงวันนี้ "ดรากอน ออโต้เพ้นท์" ได้รับการยกย่องเป็น"อู่พ่นสีอันดับ1ของกระบี่"อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะการเอาใจใส่ของ 2 ผู้บริหารหญิง ที่มองว่า การทำสีรถที่ไหนก็ทำได้ แต่การทำให้ดีที่สุด ต้องมีการจัดการที่ดีและการเรียนรู้ไม่รู้จบ รวมทั้งเรื่องเงินสำหรับการขยายงาน ที่เธอไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรติดมือมาจากครอบครัว แต่อยากจะทำด้วยตัวเอง
"โชคดีที่ได้รู้จัก บสย." ฐายิกา กล่าวถึง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ที่ให้การสนุนสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่"ดราก้อน" ตัดสินใจเข้าไปเป็นลูกค้าเพื่อขอให้เป็นผู้ค้ำประกันการกู้เงินมาขยายงานจาก 3 ธนาคารในวงเงินกว่า 15 ล้านบาท ที่ บสย.ค้ำประกัน 13 ล้านเพื่อขยายงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และจาก 10 คันเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ถึงวันนี้ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเดือนละกว่า 120 คัน จนพื้นที่ของอู่ในขณะนี้ที่มีขนาด 3 ไร่ แทบจะไม่เพียงพอที่จะขยายงาน จึงเตรียมหาพื้นที่ไม่ไกลจากเดิมรองรับการขยายงานอีกประมาณ 5 ไร่

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ ฐายิกาบอกว่าเธอโชคดีก็คือ เธอมีพนักงานที่ดี หลังจากเคยประสบปัญหาในตอนแรกที่เสมียนรับงานพูดจาไม่ดีจนลูกค้าถอย เธอจึงให้ความสำคัญกับ"พนักงาน" ที่เป็น"คนรับแขก" โดยดูแลทุกคนเหมือนครอบครัว อยู่ที่เดียวกัน กินอาหารด้วยกัน ทำให้พนักงาน 31 คนที่เป็นพนักงานในสำนักงาน 5 คน และในศูนย์ซ่อม 26 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีประมาณครึ่งหนึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว รักและทำงานกันอย่างมีความสุขเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
ขณะเดียวกัน แรงงานของเธอจำนวนหนึ่งเป็น"สาวประเภทสอง"
"ฐายิกา" จึงตัดสินใจทำ ดราก้อน คาบาเร่ต์ โชว์ เป็นเวทีการแสดงโชว์อลังการของสาวประเภทสอง ซึ่งแสดงที่ "อ่าวนางเซ็นเตอร์พอยต์" ในจ.กระบี่ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจที่ทำไปด้วยความรัก และมีความสุขที่เห็นคนชอบ
ความสำเร็จของทั้ง 2 ธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือธุรกิจอู่ซ่อมรถและคาบาเร่ต์โชว์ แสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้ของ"ฐายิกา วลัณธัญธร" ที่ยอมรับว่าเป็น"คนบ้ายอ" และ"มีความสุขที่คนชอบเรา"
และเป็นอีก"เอสเอ็มอีบ้านนอก" ที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาได้เพราะมีหน่วยงานอย่าง บสย.เป็นผู้ค้ำประกันเพื่อต่อยอดธุรกิจ