วิจัยขสมก.พบคนขับ-กระเป๋าโรครุมเร้า

พนักงานสายตรวจพิเศษ ขสมก. อรพินธุ์ แทนทอง หนึ่งในคณะนักวิจัยเปิดเผยถึง ผลสำรวจสถานะสุขภาพของพนักงาน ขสมก.ว่าได้ทำการสัมภาษณ์พนักงาน ขสมก. ในตำแหน่งต่างๆ ทั้งเพศหญิงและชาย จำนวน 1,243 รายจากทั่วทุกเขต พบว่าพนักงาน ขสมก. ยังเผชิญปัญหาสุขภาพและปัญหาคุณภาพชีวิตหลายด้าน โดยเฉพาะพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่ต้องทำงานล่วงเวลาวันละ 2 ชั่วโมงขึ้นไป และสภาพการทำงานที่ตรากตรำยังส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานในหลายด้าน ทั้งจากการกินอาหารไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา เหนื่อยล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และอาการทางร่างกายจากการที่ต้องนั่งหรือยืนอยู่บนรถเมล์นานๆ และที่สำคัญคือการที่พนักงานต้องกลั้นปัสสาวะและอุจจาระเป็นประจำ เพราะสภาพการจราจรที่ติดขัดและเส้นทางเดินรถที่มีระยะทางไกล รวมทั้งการที่ท่ารถบางแห่งยังมีห้องน้ำไม่เพียงพอ
ขณะที่ปัญหาอื่นๆ ที่พนักงานเจอ เช่น การถูกคุกคามทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเก็บค่าโดยสารหญิง นอกจากนี้พนักงาน ขสมก.จำนวนไม่น้อยยังมีปัญหาหนี้สิน พบว่าพนักงาน 85% ระบุสถานะว่ามีหนี้สินสูงพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็นการกู้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ และมีพนักงานบางส่วนที่เป็นหนี้นอกระบบด้วย
ด้านผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท บอกว่า ผลการวิจัยจะรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงระบบสวัสดิการของพนักงาน เตรียมยื่นต่อ ขสมก.ได้แก่1) ให้ ขสมก. จัดสวัสดิการจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล เพื่อลดภาระที่พนักงานต้องหาเงินมาสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลในยามที่เจ็บป่วย
2) ให้ ขสมก. ปรับปรุงระบบการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อให้พนักงานได้รับบริการอย่างทั่วถึง เพราะปัจจุบันการตรวจสุขภาพประจำปีที่ ขสมก.จัดให้ยังมีระยะเวลาจำกัด ทำให้พนักงานที่ต้องเข้ากะทำงานในเวลาที่มีการตรวจสุขภาพต้องเสียโอกาส
3) ให้ ขสมก. จัดร้านค้าสวัสดิการที่ขายอาหารที่มีคุณภาพดีและราคาถูก รวมทั้งจัดน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอในทุกจุดที่มีพนักงาน และจัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม รวมถึงการจัดให้มีห้องน้ำตามอู่รถเมล์อย่างเพียงพอ
4) ให้ ขสมก. จัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายแก่พนักงาน
5) จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการหนี้สินแก่พนักงาน
6) สร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้พนักงานนอกเวลาทำงานหรือในวันหยุด