svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

บราซิล-เนเธอร์แลนด์ เคืองอินโดฯ หลังประหารนักโทษคดียาเสพติด

19 มกราคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บราซิลกับเนเธอร์แลนด์เรียกทูตประจำอินโดนีเซียกลับประเทศ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่อินโดนีเซียประหารชีวิตนักโทษที่เป็นพลเมืองของแต่ละชาติในคดียาเสพติด

อินโดนีเซียดำเนินการลงโทษประหารชีวิตพลเมืองบราซิลและเนเธอร์แลนด์ด้วยการยิงเป้า ร่วมกับผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนอื่นๆ อีก 4 คน ที่เป็นชาวเวียดนาม, มาลาวี, ไนจีเรียและอินโดนีเซียเมื่อวันอาทิตย์ และนับเป็นนักโทษ 6 คนแรกที่ถูกประหารชีวิตภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด้

โฆษกหญิงของประธานาธิบดีดิลม่า รูสเซฟฟ์ ของบราซิล แถลงว่า ประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ ทั้งผิดหวังและไม่พอใจอย่างยิ่ง หลังจากอินโดนีเซีย เมินเฉยต่อคำวิงวอนครั้งสุดท้ายของเธอ และประหารชีวิตนายมาร์โก อาร์เชอร์ การ์โดโซ โมเรรา วัย 53 ปี ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักลอบนำโคเคนเข้าอินโดนีเซียเมื่อปี 2547

ซึ่งการใช้โทษประหารชีวิต ที่กำลังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตบราซิลประจำกรุงจาการ์ตากลับเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป

นอกจากนี้นายเบิร์ต เคิร์นเดอร์ส รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า เนเธอร์แลนด์เรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการประหารชีวิตนายอัง เคียม โซ ชาวเนเธอร์แลนด์ วัย 62 ปี และบอกว่า การประหารชีวิตทั้ง 6 คน เป็นเรื่องน่าเศร้า และเนเธอร์แลนด์จะยังต่อต้านการใช้โทษประหารชีวิตต่อไป

โดยบอกด้วยว่า กษัตริย์วิลเลม-อเล็กซานเดอร์ และนายกรัฐมนตรีมาร์ค รุทเทอร์ ของเนเธอร์แลนด์ ติดต่อไปยังผู้นำอินโดนีเซีย และรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเท่าที่มีอำนาจในมือแล้ว เพื่อยับยั้งการประหารชีวิต

และก่อนหน้านั้นโฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม แถลงว่า เวียดนามได้ขอร้องไปยังอินโดนีเซียว่าให้พลเมืองเวียดนามได้รับสิทธิตามกฎหมาย และขอให้พิจารณาลดโทษตามแนวทางมนุษยธรรม

สำนักงานอัยการอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า นักโทษทุกคน ที่ถูกตัดสินให้ต้องโทษประหารชีวิตในช่วงระหว่างปี 2543-2554 ถูกประหารชีวิตหลังเวลาเที่ยงคืนเพียงไม่นาน

และประธานาธิบดีวิโดโด้ โพสต์ในเฟสบุ๊ค ปกป้องการใช้โทษประหารชีวิต โดยบอกว่า ยาเสพติดทำลายชีวิต เขาบอกว่า สงครามต่อต้านพวกมาเฟียค้ายา ไม่ควรเป็นมาตรการครึ่งๆ กลางๆ เนื่องจากยาเสพติดทำลายชีวิตที่ดีของผู้เสพยาและครอบครัวของพวกเขา ประเทศจะต้องเดินหน้าต่อสู้กับเครือข่ายยาเสพติดต่อไป อินโดนีเซียที่มั่งคั่งจะต้องปราศจากยาเสพติด

ประธานาธิบดีวิโดโด้ ที่เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม สร้างความผิดหวังให้กับนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน หลังประกาศสนับสนุนการใช้โทษประหารชีวิต แม้ว่าเขามีภาพลักษณ์ของนักปฏิรูปก็ตาม เขายืนยันว่า ผู้กระทำผิดคดียาเสพติดไม่ควรได้รับการอภัยโทษ

logoline