ศาลพิพากษาประหาร "หนุ่ย ติ๊งต่าง"

ศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพาวุธ-- 28 มี.ค.2557-- เวลา 09.00 น.ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.602/2557 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายหนุ่ย หรือติ๊งต่าง ไม่มีนามสกุล อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง เป็นจำเลย ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจาร , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี , ใช้อุบายหบอกลวงโดยข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือพาไปเพื่ออนาจาร, หน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดการกระทำผิด ซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199,277,283 ทวิ,288,289, 310และ317 กรณีเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2556 จำเลยได้ลวง ด.ญ.การ์ตูน (นามสมมุติ) อายุ 6 ปีไปซื้อขนม ก่อนจะพาเข้าไปในพงหญ้า ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง แล้วได้ประทุษร้ายเด็กหญิงจนหมดสติก่อนจะกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ โดยท้ายฟ้องอัยการขอให้ศาลเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิเคราะห์คำรับสารภาพ และพยานโจทก์ที่นำสืบประกอบคำรับสารภาพแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันเกิดเหตุ บิดาของเด็กหญิง ได้พากันไปชมการแสดงดนตรี ต่อมาเด็กหญิงเกิดง่วงนอน บิดาจึงพาไปนอนที่รถก่อนที่บิดาจะกลับไปชมดนตรี ซึ่งจำเลยได้พบเด็กหญิงแล้วได้พูดว่าจะพาไปซื้อขนม โดยจำเลยเดินจูงมือพาเด็กหญิงเข้าไปในพงหญ้า สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่งแล้วได้บีบคอจนเด็กหญิงหมดสติ หลังจากนั้นได้ถอดเสื้อผ้าของเด็กหญิงออก แต่เมื่อเด็กหญิงรู้สึกตัวแล้วส่งเสียงร้อง จำเลยจึงเอาเสื้อของเด็กหญิงรัดปากไว้จนนิ่งเงียบ จากนั้นจำเลยจึงได้กระทำชำเราเด็กหญิงขนสำเร็จความใคร่ แล้วจำเลยได้อุ้มร่างเด็กหญิงไปวางที่พงหญ้าและนำกิ่งไม้มาวางทับร่างเด็กหญิงไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนเห็น ก่อนจำเลยจะกลับไปทำงานตามปกติ ซึ่งหลังเกิดเหตุประมาณ 10 วันจึงมีผู้ค้นพบกะโหลกศีรษะ เสื้อ กางเกง รองเท้าแตะขแงเด็กหญิงที่บริเวณเกิดเหตุ โดยผลการตรวจพิสูจน์สารพันธุ์กรรม ( ดีเอ็นเอ) ยืนว่า กะโหลกศีรษะ เสื้อ กางเกง รองเท้าแตะที่พบเป็นของเด็กหญิง อีกทั้งศาลได้พิจารณาภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด และผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว รับฟังได้ว่าจำเลยกนะทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา199,277วรรคสาม,283 ทวิ วรรคสอง, 289 (7) ,309 วรรคหนึ่ง ,310 วรรคหนึ่ง และ317 วรรคสาม ให้เรียงกระทงลงโทษ ให้ประหารชีวิตฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดการกระทำ , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำคุก 8 ปีโดยให้เพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 12 ปีในความผิดข้อหานี้ , พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดาเพื่ออนาจาร จำคุกอีก 6 ปีเมื่อเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุกข้อหานี้รวม 9 ปี และฐานซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตายจำคุก 1 ปีเมื่อเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน ขณะที่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุยบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานฆ่าผู้อื่นฯ ให้จำคุกตลอดชีวิต , กระทำชำเราเด็กฯ จำคุก 6 ปี , พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีฯ จำคุก 4 ปี 6 เดือน และฐานซ่อนเร้นศพฯ จำคุก 8 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกตลอดชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายหนุ่ย ถูกควบคุมตัวมาจากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษา โดยระหว่างที่ศาลอ่านคำตัดสิน นายหนุ่ย จำเลย ยืนฟังด้วยสีหน้าและท่าทางที่นิ่งเฉย  ขณะวันนี้นอกจากพ่อ แม่ และญาติของน้องการ์ตูน ที่มาฟังคำพิพากษาแล้ว ก็ยังมีตัวแทนมูลนิธิกระจกเงาที่ติดตามเรื่องเด็กหาย ก็ได้เดินทางมาศาลด้วย โดยครอบครัวของน้องการ์ตูน ระบุด้วยว่า ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งช่วงวันที่ 13 - 14 เม.ย.นี้ จะทำบุญการเสียชีวิตครบ 100 วันให้กับน้องการ์ตูนด้วย ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าโครงการศูนย์ข้อมูลคนหาย เพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงความคืบหน้าคดีของเด็กรายอื่นๆ ตามคำรับสารภาพนายหนุ่ยว่า พบหลักฐานชัดเจนว่าถูกฆ่า จำนวน 2 รายที่จังหวัดเลย ส่วนรายอื่นยังไม่พบหลักฐานยืนยัน ผู้สื่อข่าวรายงานด่วยว่า สำหรับนายหนุ่ยหรือติ๊งต่าง ภายหลังถูกจับกุมก๋ได้ให้การรับสารภาพ และยอมรับว่า นอกจากน้องการ์ตูนแล้ว นายหนุ่ยยังได้ก่อเหตุกระทำอนาจารเหยื่อมาแล้วนับ 10 รายและฆ่าตายมาแล้ว 4 ศพ เริ่มตั้งแต่ปี 2551 หลังพ้นโทษในคดีพรากผู้เยาว์ฯ มาเป็นเวลา 3 ปี โดยน้องการ์ตูน เป็นศพสุดท้าย