svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Key Person

"ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” จากหมอผู้เสียสละสู่ นายก อบจ. กาญจนบุรี

"หมอประวัติ" จากอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล ก้าวสู่เส้นทางการเมือง กับตำแหน่งนายก อบจ. กาญจนบุรี ด้วยหัวใจที่อยากรักษา พัฒนาบ้านเกิด

“ผมไม่อยากเหมือนใคร” — จากเด็กสอบเทียบ สู่เส้นทางของนายแพทย์

ในยุคสมัยที่วิศวะ คืออาชีพที่ได้รับความนิยมแต่นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ กับมองเห็นเส้นทางอีกสาย จากความคิดที่อยากแตกต่างผลักดันให้เขาได้ก้าวเข้าสู่โรงเรียนแพทย์ ด้วยความคิดที่ว่า “ในห้องมีแต่คนจะไปวิศวะกันหมด ผมไม่อยากเหมือนใคร” นพ.ประวัติกล่าว

เด็ก ม.4 ใช้การสอบเทียบเพื่อให้ตนเองจบ ม.6 และพาตนเองกลายเป็นนักเรียนแพทย์ที่อายุน้อยที่สุดในรุ่น หลังจากเรียนจบตัดสินใจกลับมาทำงานที่บ้านเกิด เพื่อทำงานใช้ทุน แต่ด้วยโชคชะตา ทำให้ตัวเขาเองถูกส่งไปทำงานในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และที่นั่นเองก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้เรียรู้ และสอนให้เขาเข้าใจถึง “หัวใจของความเป็นแพทย์” จนก้าวเข้าสู่การดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย

\"ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” จากหมอผู้เสียสละสู่ นายก อบจ. กาญจนบุรี

ความต่างจากนายแพทย์ สู่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 

นายแพทย์ประวัติ เล่าว่า “การบริหารจัดการทั้งสองด้านมีความต่างกัน คือมันกว้างขึ้นจากเดิมที่ดูแลเฉพาะบริการสาธารณสุข มันจะมีอีกหลายมิติที่บทบาทนายก อบจ. ต้องดูแล ตัวอบจ.ที่มันเปลี่ยนไป ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป จากที่อบจ.จะเน้นที่การก่อสร้าง หรือว่าโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก แต่วันนี้มันต้องมาดูเรื่องคุณภาพชีวิต บทบาท อบจ. ก็ไปดูเรื่องของคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัดมากขึ้น”

แม้ระบบการทำงานจะมีความแตกต่างกัน แต่ความมุ่งมั่นในการทำงานยังคงเต็มเปี่ยม ส่งต่อประสบการณ์สู่การลงมือทำอย่างตั้งใจ จากฐานะแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาล สู่การสร้างแรงผลักดันที่อยากพัฒนาท้องถิ่น ทำให้หันมาก้าวสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น ด้วยความเชื่อในการทำงานที่ว่า “ลงมือทำไปด้วยกัน แก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน รับรางวัลพร้อมกัน โดนลงโทษพร้อมกัน” เพื่อพัฒนาระบบ องค์กรให้เข้มแข็ง และเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงนโยบาย ผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

“เมื่ออยู่ในองค์กรใหญ่ขึ้น ทีมงานที่มีก็เยอะขึ้น ฝ่ายข้าราชการที่มีความรู้ ความสามารถก็เยอะขึ้น ผมเองไม่ได้รู้ลึกทุกอย่าง แต่ว่าก็อาศัยทีมงานที่ดี การทำงานต้องอาศัยความเป็นผู้นำ บทบาทความเป็น Leadership ของของตัวเอง ที่ลงไปลุยกับเขา ไปไปซัปพอร์ตลูกน้อง ช่วยแก้ปัญหา หรือว่าไปทำให้เขาทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น มันจะทำให้องค์กรของเรา อบจ. ที่เป็นระบบราชการดั่งเดิม มันสามารถเดินได้เร็วกว่าเดิม” หมอประวัติกล่าว

ด้วยหัวใจในการรักษาชีวิตผู้ป่วย สู่บทบาทใหม่ที่ต้องรักษาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั้งจังหวัด ทุกบทเรียนที่ได้จากการเป็นแพทย์ และการบริหารโรงพยาบาล ล้วนเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การออกแบบนโยบายที่ตอบโจทย์ของพี่น้องชาวกาญจนบุรี

 

"นโยบายเพื่อคนกาญจน์: เปลี่ยนการบริการเป็นการดูแล เปลี่ยนการพัฒนาเป็นการมีส่วนร่วม"

ด้วยความสามารถและประสบการณ์จากการทำงานในวิชาชีพแพทย์ รวมถึงบทบาทในฐานะ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจะ ได้ก้าวสู่บทบาทใหม่ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ และความรู้ด้านการสาธารณสุข และหัวใจของการ "ดูแลผู้คน" มาต่อยอดการทำงานในระดับจังหวัด

หมอประวัติ กล่าวว่า “ผมมาจากสายสุขภาพนะ แล้วเราก็ถนัดที่สุด เราเก่งที่สุดและผมว่าในบรรดานายก อบจ.ผมเก่งเรื่องนี้ที่สุด ผมมีข้อเด่นตรงนี้ ก็เลยเอามาเอามาทำเป็นนโยบายหลักครับ“ 

ก้าวสู่การสร้างระบบที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะ "นโยบายด้านสาธารณสุขและคุณภาพชีวิต" ที่กลายเป็นหมุดหมายหลักที่ให้ความสำคัญ และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)  นอกจากนี้ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของมิติอื่นๆ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตในภาพรวม ทั้งด้านคมนาคม ท่องเที่ยว เศรษฐกิจฐานราก หรือแม้แต่การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน นำไปสู่นโยบาย และแนวทางในการพัฒนาที่ต่อเนื่อง

\"ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” จากหมอผู้เสียสละสู่ นายก อบจ. กาญจนบุรี

1. นโยบายด้านสาธารณสุขและคุณภาพชีวิต

เป็นเป้าหมายหลักที่ปักธงในการแก้ไขและพัฒนา โดยมุ่งเน้นยกระดับระบบบริการสุขภาพพื้นฐานให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพในระดับมาตรฐาน เป็นการพัฒนาระบบที่มีให้ทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยการการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการพัฒนา และลดภาระให้แก่บุคลากรทางการแพทย์นอกจากนี้ด้วยพื้นฐานการเป็นเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว ยังมีการพัฒนาระบบสาธารณสุข เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพระบบสาธารณสุขเดิมให้มั่นคง และเพิ่มความยั่งยืนในอนาคต 

การยกระดับ รพ.สต. เป็นระดับ Premium 

จุดมุ่งเพื่อพัฒนาสถานีอนามัยให้มีอุปกรณ์ทันสมัย พร้อมโครงสร้างที่ดี และเชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อลดภาระงานและเพิ่มคุณภาพบริการ

นพ.ประวัติกล่าวว่า "รพ.สต.บางคนยังไม่รู้จักเลยมันคืออะไร มันคือ สถานีอนามัยดังเดิม จนวันหนึ่งมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยนะ เปลี่ยนแปลงเฉพาะชื่อ อันนี้เป็นความจริงที่มันเกิดในสังคม ผมว่าชาวบ้านเขาก็รู้ว่ามันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากที่ อบจ. ลงไปทำ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้เริ่มตั้งแต่โครงสร้างเลยผมว่า โครงสร้างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ได้อนาถา ทรุดโทรมเก่าแก่ เครื่องไม้เครื่องมือสมัยนี้โรคมันไปไกลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ มันสามารถเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมาลดภาระงานของบุคลากรได้"

สร้างโรงพยาบาล อบจ. ในรูปแบบ Healing Environment

จากแนวคิดข้างต้น โรงพยาบาลจะมีลักษณะใกล้เคียง รพ.เอกชน ให้บริการฟรีตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไม่แออัด ถูกสุขลักษณะ พร้อมบริการให้ประชาชนเข้าถึงการบริการทางสุขภาพอย่างเท่าเทียม

ด้วย ความคิดที่ไม่อยากให้คนกาญจน์ เป็นเหมือนคนไข้-ผู้ป่วยอนาถาต่างจังหวัด ซึ่งทำให้ที่ชาวบ้านมีความน้อยเนื้อต่ำใจเขาสะท้อนมาถึงคุณหมอ ผมเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ปัญหานี้มันไม่มีคนแก้ เนื่องด้วยติดอะไรหลายๆ อย่าง หรือว่าระบบราชการมันทำให้เรารู้สึกว่าโรงพยาบาลรัฐเองก็คือโรงพยาบาลอนาถา ซึ่งมันก็มีการนอนใต้เตียงนอนหน้าลิฟต์ เกิดความแออัด ผมว่ายุคนี้แล้ว เราไม่ได้จนขนาดนั้น เราสามารถจัดบริการให้สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ อยู่แบบมีสัดส่วนที่ดี มีสุขลักษณะที่ดี มีความสะอาด แล้วก็ไม่จำเป็นต้องอนาถา

แผนทำโรงพยาบาล อบจ. ที่ยกระดับขึ้นมา เป็นลักษณะคล้ายๆ โรงพยาบาลเอกชน แต่ยังเป็นบริการฟรี โครงสร้างไม่ใช่โรงพยาบาลรัฐบาล แต่เป็นโครงสร้างที่มันเป็นลักษณะ Healing environment แบบเข้ามาแล้วหายเลย เข้ามาก็รู้สึกดีแล้ว ไม่ใช่เข้าไปโรงพยาบาลแล้วเจอความแออัด หรือว่าเจอสิ่งต่างๆ ที่มันไม่น่าดู งานถนัดของผมคือการจัดบริการฟรีตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ น่าจะใช้งบประมาณจาก  30 บาทรักษาทุกที่ มาจัดบริการให้คนกาญจนบุรี ซึ่งผมคิดว่าทำได้ นายแพทย์ประวัติกล่าว 

บริการการแพทย์ฉุกเฉินรองรับนักท่องเที่ยว

มีระบบ Sky Doctor (เฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉิน) และบริการการแพทย์ฉุกเฉินพร้อมตอบสนอง และรองรับนักท่องในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

หมอประวัติเล่าต่อว่า “เราขายการท่องเที่ยวเพราะฉะนั้นการท่องเที่ยวของเราต้องปลอดภัยด้วย จึงเสริม ความ Premium ให้มีการส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเคสหนักๆ”

ในการพัฒนานโยบายทางสาธารณะสุข หมอประวัติได้มีการมุ่งเน้นการนำระบบ และทรัพยากรเดิมที่มีมาใช้ในการต่อยอดและพัฒนา เพื่อความยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ยังมีความสนใจ เและให้ความสำคัญในมิติอื่นๆ 

 

2. นโยบายด้านคมนาคมและขนส่ง

การจัดระบบขนส่งสาธารณะโดยใช้รถ EV (City Bus) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่ง ช่วยลดมลพิษ และรองรับการเติบโตของเมือง โดยคาดจะเปิดให้บริการสายรถ EV เชื่อมอำเภอท่าม่วง-อำเภอเมือง-อำเภอลาดหญ้า โดยค่าบริการอยู่ที่ 20 บาทตลอดสาย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ และเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง  นอกจากนี้ยังรองรับการเดินทาง ลดการใช้รถส่วนตัว ลดมลพิษ และเป็นส่วนหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน  

หมอประวัติเล่าว่า  “ผมท่องเที่ยวบ่อยนะครับ ผมจะเห็นเมืองต่างๆ ที่มันมีข้อดีข้อเด่น โดยเฉพาะในยุโรป การพัฒนาคมนาคมขนส่งที่มันดูสะดวกมากๆ เทียบกับเราแล้ว ผมว่าวันนี้เราแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำไป มันมีระบบขนส่งที่เป็นระบบดั้งเดิม เก่าแก่ รถสองแถว หรือว่า หรือว่า รถนักเรียนที่เบียดเสียดกันเข้าไป ซึ่งมันไม่ปลอดภัยแน่นอนเราก็เลยมานึกย้อนกลับไปว่าเราควรจะต้องทำอะไรแล้ว ก็เลยมีระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งใกล้จะมีรถ EV วิ่งเป็นสายแรกของจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว”

3. นโยบายด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

มีการจัดอีเวนต์ กิจกรรม หรือถนนคนเดิน เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดระยะเวลาในการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวภายในจังหวัด และมีการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยกิจกรรม และความปลอดภัยในการท่องเที่ยวโดยการใช้ระบบสาธารณสุขผสานระบบแพทย์ฉุกเฉินและการดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

4. นโยบาย Smart City

เป็นการพัฒนาเมืองด้วยการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยในการทำงาน เพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และะสร้างความยั่งยืนในอนาคต มีการใช้ระบบ 

  • Smart Security กล้อง AI ตรวจจับเหตุการณ์และระบบ Plate Detector เพื่อวางแผนการจราจร
  • Smart Health ส่งเสริม อสม.ให้มีความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีทาง ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าไปใช้ในชุมชน สร้างระบบข้อมูลสุขภาพที่เชื่อมต่อกับโรงพยาบาล 
  • Smart Environment  มีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัด PM2.5 คุณภาพน้ำเสีย ระดับ หรือปริมาณน้ำเพื่อเป็นการเก็บข้อมูล โดยส่งต่อข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดแนวทางการแก้ไขปัญหา หรือการสร้างแผนการป้องกันทั้งในกรณี PM2.5 และปัญหาอุทกภัย

5. นโยบายด้านเศรษฐกิจฐานรากและแก้หนี้

มีการประสานงาน เเละเป็นตัวกลางในการเจรจาลดหนี้ครัวเรือน โดยการประสานงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการปรับลด และบริหารจัดการหนี้ครัวเรือน เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน และลดภาระหนี้

6.นโยบายด้านกีฬาและภาพลักษณ์เมือง

มีการผลักดันทีมฟุตบอลประจำจังหวัดกาญจนบุรี สร้างโอกาสให้เยาวชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดผ่านกิจกรรมที่สร้างความภาคภูมิใจร่วมกัน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสให้เยาวชน พร้อมช่วยยกระดับบรรยากาศเมืองผ่านกีฬา

\"ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” จากหมอผู้เสียสละสู่ นายก อบจ. กาญจนบุรี

แม้เส้นจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยโลกการเมือง อย่างนักการเมืองคนอื่นๆ แต่เส้นทางเดียวที่แน่วแน่มาตลอดชีวิตของ นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจะคือ "การดูแลและช่วยเหลือผู้คน" จากบทบาทของนายแพทย์ สู่ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เปลี่ยนเพียงหน้าที่ แต่ความตั้งใจเดิมยังคงอยู่ และนโยบายที่ไม่ใช่แค่เพียงตัวหนังสือที่อยู่บนกระดาษ แต่กำลังเกิดขึ้นจริงในการพัฒนาชีวิต และสร้างความยั่งยืนเพื่อพี่น้องชาวกาญจนบุรี 

\"ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ” จากหมอผู้เสียสละสู่ นายก อบจ. กาญจนบุรี

"ผมมีความเป็น Leadership ค่อนข้างสูง…เวลาทำอะไร ผมจะลงไปทำกับเขา แก้ปัญหาไปพร้อมกัน รับรางวัลพร้อมกัน โดนลงโทษพร้อมกัน" – นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการบริหาร แต่คือการ “ลงมือทำ และ เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ชีวิตคนกาญจนบุรีดีขึ้น