svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

คู่มือดูแล “วัยทำงาน” สู้เบาหวาน! แนะ 7 สัญญาณเตือนและวิธีลดเสี่ยง

"วัยทำงาน" เสี่ยง "เบาหวาน" สูง! แนะ 7 สัญญาณเตือนที่ต้องสังเกต พร้อม 6 พฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลดเสี่ยงเบาหวานอย่างยั่งยืน ชี้ควรตรวจสุขภาพประจำปีเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป

KEY

POINTS

  • วัยทำงานมีความเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ความเครียด การนั่งทำงานนาน และการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
  • สัญญาณเตือนของโรคเบาหวานที่ควรสังเกต ได้แก่ น้ำหนักลดผิดปกติ ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน กระหายน้ำ และอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ
  • แนะวิธีลดความเสี่ยงด้วยการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ควบคุมอาหารลดหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และจัดการความเครียด
  • ควรตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อคัดกรองเบาหวาน (โดยเฉพาะผู้มีอายุ 35 ปีขึ้นไป) ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

ปัจจุบันนี้ ข้อเท็จจริงสำคัญคือ โรคเบาหวาน ยังคงเป็นภัยเงียบที่ใกล้ตัวคนวัยทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับพฤติกรรมสุขภาพของตนเองในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มักมีทั้งความเครียด การนั่งทำงานนาน และอาหารสะดวกซื้อที่เสี่ยงต่อระดับน้ำตาลสูง

โรคเบาหวาน: ปัญหาที่ใกล้กว่าที่คิด

ข้อมูลจากสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (IDF) ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานมากถึง 589 ล้านคน และกว่าร้อยละ 40 ไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังป่วย ขณะที่ปี 2567 โรคเบาหวานทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 3.4 ล้านราย หรือเฉลี่ย ทุก 9 วินาทีมี 1 คนเสียชีวิต

สำหรับประเทศไทย ระบบข้อมูล (HDC) ปี 2568 พบผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 370,000 ราย สะท้อนว่าคนวัยทำงานจำนวนมากกำลังเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอย่างชัดเจน

โรคเบาหวานเกิดจากความผิดปกติของการผลิตอินซูลินหรือร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลสูงเรื้อรัง เมื่อควบคุมไม่ได้อาจนำไปสู่โรคหัวใจ ไตวาย เส้นประสาทเสื่อม จอประสาทตาผิดปกติ รวมถึงแผลเรื้อรังที่อาจรุนแรงถึงขั้นต้องตัดเท้า

พฤติกรรมที่ทำให้วัยทำงานเสี่ยงเบาหวาน

กรมควบคุมโรคชี้ว่า สาเหตุสำคัญของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ล้วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ได้แก่

  • กินหวานจัด มันจัด เค็มจัด
  • นั่งทำงานนาน ไม่ได้ออกกำลังกายเพียงพอ
  • สูบบุหรี่หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า
  • ดื่มแอลกอฮอล์
  • ภาวะอ้วนและความดันโลหิตสูง
  • ความเครียดสะสมจากงาน

ที่สำคัญคือ โรคเบาหวานมักไม่แสดงอาการในช่วงแรก ทำให้หลายคนไม่รู้ว่าตนเองป่วย จนเริ่มมีอาการ เช่น น้ำหนักลดผิดปกติ ปัสสาวะกลางคืนบ่อย หิวน้ำ หรืออ่อนเพลียอย่างไม่มีสาเหตุ

วัยทำงานจะป้องกันเบาหวานได้อย่างไร?

จำไว้ว่า “ทุกวันคือวันดูแลสุขภาพ” ไม่ต้องรอวันสำคัญหรือวันครบรอบใด ๆ โดยเฉพาะในที่ทำงานที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตคนวัยทำงาน กรมควบคุมโรคแนะนำดังนี้

  • ตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ: ผู้ที่อายุ ตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองเบาหวานทุกปี (ค่าระดับน้ำตาลในเลือดเกณฑ์ปกติ ควรต่ำกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร)
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์: ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่เหมาะสมคือ 18.5–22.9 กก./ม² เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานและความดันโลหิตสูง
  • กินอาหารเพื่อสุขภาพในวันทำงาน: ลดหวาน มัน เค็ม เลือกโปรตีนคุณภาพดี ผักเพิ่มทุกมื้อ ลดน้ำอัดลม ชานมหวาน เครื่องดื่มกาแฟที่มีน้ำตาลสูง
  • เพิ่มกิจกรรมทางกาย: ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์หากต้องนั่งทำงานนาน ควรลุกเดิน 5 นาทีทุกชั่วโมง
  • ลดพฤติกรรมเสี่ยง: ไม่สูบบุหรี่และไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เลี่ยงแอลกอฮอล์ จัดการความเครียด เช่น เดินเล่น ทำสมาธิ หรือแบ่งเวลาพักอย่างเหมาะสม นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน

การปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสุขภาพ เหล่านี้ สามารถลดโอกาสป่วยด้วยโรคเบาหวาน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับร่างกายและจิตใจได้อย่างยั่งยืน