svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health

กรมควบคุมโรคเตือน! ระวัง “บาดทะยัก” หลังน้ำลด พร้อม 5 วิธีดูแลบาดแผล

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนดูแลบาดแผลอย่างถูกวิธีหลังน้ำลด เนื่องจากดินและโคลนเสี่ยงต่อเชื้อ "บาดทะยัก" แนะรีบล้างแผลทันทีและตรวจสอบประวัติวัคซีน หากฉีดเกิน 5-10 ปี ต้องฉีดกระตุ้น

หลังมหาอุทกภัยผ่านพ้นไป สิ่งที่เราต้องใส่ใจพอ ๆ กับการฟื้นฟูบ้าน คือการดูแลสุขภาพกาย เพราะการทำความสะอาดบ้านอาจนำมาซึ่ง “บาดแผล” จากเศษสิ่งของหรือสิ่งมีคมที่ซ่อนอยู่ในดินและโคลน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อสำคัญ โดยเฉพาะ “เชื้อบาดทะยัก” ที่อันตรายถึงชีวิตได้

เราได้รวบรวมคำแนะนำฉบับสมบูรณ์จาก กรมควบคุมโรค เพื่อให้คุณดูแลตัวเองและครอบครัวได้อย่างปลอดภัยที่สุดในช่วง หลังน้ำลด

🦠 ทำไมบาดแผลหลังน้ำลดจึงอันตรายกว่าปกติ?

นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และทีมผู้บริหารที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดสงขลา เน้นย้ำว่า น้ำท่วมคือแหล่งรวมของดิน โคลน และเชื้อโรคหลายชนิด บาดแผลที่เกิดจากการสัมผัสสิ่งปนเปื้อนจึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะ โรคบาดทะยัก ซึ่งเชื้อจะซ่อนอยู่ในดินและโคลน การติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้แม้เป็นแผลเล็กน้อย

กรมควบคุมโรคเตือน! ระวัง “บาดทะยัก” หลังน้ำลด พร้อม 5 วิธีดูแลบาดแผล

5 ขั้นตอน "ล้างแผลทันที" กุญแจสำคัญสู่ความปลอดภัย

เมื่อเกิดบาดแผล ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ คุณต้องไม่ละเลยและทำตามขั้นตอนเหล่านี้ทันที

  1. หยุดเลือดให้เร็ว: ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซกดลงบนบาดแผลเบา ๆ จนเลือดหยุดไหล
  2. ล้างให้เกลี้ยง: ใช้น้ำสะอาดและสบู่อ่อน ๆ ชะล้างสิ่งสกปรก ฝุ่น หรือดินที่ติดอยู่ในแผลออกให้หมด การล้างแผลทันทีช่วยลดปริมาณเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้มากถึง 90%
  3. เช็ดให้แห้งสนิท: หลังล้างเสร็จ ซับแผลให้แห้งอย่างเบามือ
  4. ปิดแผลป้องกันเชื้อ: ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือพลาสเตอร์ที่สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อใหม่เข้ามา
  5. สิ่งที่ต้องห้ามเด็ดขาด: ห้ามใช้สมุนไพร, น้ำมันทา, น้ำส้มสายชู, หรือสิ่งแปลกปลอมใด ๆ ใส่ลงในบาดแผลเด็ดขาด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงและทำให้แผลอักเสบหนักกว่าเดิม

กรมควบคุมโรคเตือน! ระวัง “บาดทะยัก” หลังน้ำลด พร้อม 5 วิธีดูแลบาดแผล

🚨 สัญญาณเตือน! แผลแบบไหนที่ "ไม่ควรดูแลเอง" ต้องรีบพบแพทย์ด่วน!

แม้แผลส่วนใหญ่จะดูแลเบื้องต้นได้ แต่แผลบางประเภทต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดการทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง

  • แผลรุนแรง: แผลลึก แผลกว้าง หรือบาดแผลที่เลือดไหลไม่หยุด
  • แผลปนเปื้อนมาก: แผลที่มีดิน โคลน หิน ทราย หรือเศษวัตถุฝังอยู่และไม่สามารถล้างออกได้
  • แผลที่มาจากการถูกกัด: แผลถูกสัตว์กัด
  • สัญญาณติดเชื้อ: บาดแผลที่มีอาการบวมแดง ร้อน ปวดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีหนองเกิดขึ้น

💉 เช็กด่วน! ประวัติ "วัคซีนบาดทะยัก" (Tetanus Shot)

นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เน้นย้ำว่า การประเมินประวัติวัคซีนเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้การล้างแผล

  • หากคุณไม่แน่ใจว่าเคยฉีด วัคซีนบาดทะยัก ครบหรือไม่
  • หากการฉีดครั้งสุดท้ายห่างไป “เกิน 5–10 ปี” แล้ว

ควรรีบไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อพิจารณาฉีดกระตุ้นทันที ในกรณีที่มีแผลสกปรกหรือแผลใหญ่ แพทย์อาจพิจารณาให้ Tetanus Immune Globulin (TIG) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันเฉพาะหน้าให้แก่ร่างกาย

✅ ป้องกันดีกว่าแก้! ทำอย่างไรให้ปลอดภัยขณะฟื้นฟูบ้าน?

ช่วงหลังน้ำลด เป็นช่วงที่เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสวมอุปกรณ์ป้องกันเสมอ

  • สวมรองเท้าบูทกันน้ำ: เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการเหยียบสิ่งของมีคม
  • สวมถุงมือยาง: ทุกครั้งที่ต้องสัมผัสดิน, โคลน หรือสิ่งปนเปื้อน
  • หลีกเลี่ยงการใช้มือเปล่า: ในการจับหรือยกเศษวัสดุ
  • ตรวจสอบร่างกาย: หากเกิดแผลเล็กน้อยระหว่างทำงาน ให้รีบล้างทำความสะอาดทันทีตาม 5 ขั้นตอนข้างต้น

💡 หลังน้ำลดไม่ได้หมายถึงแค่การทำความสะอาดบ้าน แต่หมายถึงการดูแลร่างกายของเราให้ปลอดภัยไปพร้อมกันด้วย เพราะแม้บาดแผลจะเล็กแค่ไหน ก็อาจซ่อนความเสี่ยงร้ายแรงกว่าที่คิด หากพบอาการผิดปกติ สามารถติดต่อ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422