svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สุขภาพ และ ความงาม

จีน พบผู้ติดเชื้อไวรัส “เลย์วี ” หลายสิบราย คาดต้นตอมาจากสัตว์ตระกูลหนู

10 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักวิทย์จีน เผยรายงานการค้นพบไวรัสชนิดใหม่ชื่อ "เลย์วี" จัดอยู่ในกลุ่มไวรัสนิปาห์ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจำนวน 35 ราย ในมณฑลซานตง และเหอหนาน คาดต้นตอมาจากสัตว์ตระกูลหนู ยังไม่ยืนยันการระบาดจากคนสู่คนในตอนนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผยรายงานว่า จีน ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสลางยาเฮนิปาห์ (Langya henipavirus) หรือ ไวรัสเลย์วี (LayV) ในตอนนี้มีจำนวนผู้ประมาณ 30-35 คน

 

โดยไวรัสชนิดนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ ไวรัสนิปาห์ (Nipah) และไวรัสเฮนดรา (Hendra) แม้จะยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ไวรัสดังกล่าวสามารถแพร่จากคนสู่คนได้หรือไม่ก็ตาม 

 

จีน พบผู้ติดเชื้อไวรัส “เลย์วี ” หลายสิบราย คาดต้นตอมาจากสัตว์ตระกูลหนู

 

 

 

 

 

 

ไวรัสเลย์วี ได้ถูกตรวจพบเบื้องต้นจากผู้ที่มีอาการไข้ในภาคตะวันออกของจีนซึ่งมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร โดยผู้ติดเชื้อจะมีอาการเหนื่อยล้า ไอ สูญเสียความอยากอาหาร และปวดศีรษะ นอกจากนี้ ยังมีอาการผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด รวมถึงสัญญาณความเสียหายของตับและไต

วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (The New England Journal of Medicine) ระบุว่า ผู้ป่วย 26 คนจากทั้งหมด 35 รายในกลุ่มข้างต้นติดเชื้อไวรัสเลย์วี ขณะที่นักวิจัยระบุว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือมีประวัติเคยติดเชื้อมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่า การติดเชื้อจากคนสู่คนอาจมีโอกาสเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

ผลการตรวจเชื้อยังระบุด้วยว่า ไวรัสดังกล่าวพบในสัตว์ตระกูลหนู (Shrew) ประมาณ 27% ซึ่งเป็นพาหะของไวรัสเฮนิปาห์ (Henipavirus) ในตระกูลเดียวกัน จึงบ่งชี้ได้ว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในตระกูลนี้อาจเป็นแหล่งรังโรคตามธรรมชาติ

นอกจากนี้ ทีมวิจัยจากประเทศจีน สิงคโปร์และออสเตรเลีย เผยอีกว่า จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจกับโรคชนิดนี้ให้ดีขึ้น

 

รายงานล่าสุด โดยข้อมูลจาก องค์การอนามัยโลก (World Health Organization-WHO) ระบุว่า สัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสนิปาห์ จะมีอาการรุนแรง และสำหรับมนุษย์ไวรัสชนิดนี้มีระดับความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosafety level) อยู่ที่ระดับ 4 สูงสุด มีอัตราการติดเชื้อแล้วเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 40-75 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและยังไม่มียารักษาเฉพาะ ผู้ติดเชื้อดังกล่าวจะได้รับการรักษาตามอาการ โดย องค์การอนามัยโลก จัดไวรัสนิปาห์ เป็นหนึ่งในกลุ่มเชื้อไวรัสที่มีโอกาสสูงสุดที่จะกลายเป็นโรคระบาด 

 

ทางด้าน หวัง หลินฟา ศาสตราจารย์ประจำโครงการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ของสถาบันการแพทย์ Duke-NUS กล่าวว่า

ยังไม่มีปัจจัยให้ต้องตื่นตระหนกเกี่ยวกับ ไวรัสเลย์วี แต่โดยธรรมชาติของเชื้อไวรัส เมื่อมีการแพร่ระบาดมาสู่คนแล้ว จะมีผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ เชื่อว่าไวรัสโคโรนา คงจะไม่ได้เป็นเชื้อไวรัสตัวสุดท้ายที่เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงมีคนติดเชื้อไปทั่วโลกในตอนนี้ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คน

logoline