27 ตุลาคม 2563 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ได้รวบรวมผลการตรวจวิเคราะห์สีอินทรีย์สังเคราะห์ในลูกอมทั้งชนิดแข็ง ชนิดนุ่ม และหมากฝรั่ง โดยเป็นตัวอย่างที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) และผู้ประกอบการส่งตรวจระหว่างปี 2560-2562 จำนวน 387 ตัวอย่าง ผลการตรวจวิเคราะห์ พบว่า มีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 30 ตัวอย่าง ร้อยละ 9.8 จำแนกดังนี้
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ลูกอมและหมากฝรั่งเป็นอาหารที่อนุญาตให้ใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ เพื่อเติมแต่งผลิตภัณฑ์ แต่ปริมาณและชนิดของสีที่ใช้ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จากการรวบรวมข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ระหว่างปี 2560-2562 ยังคงตรวจพบว่ามีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ทั้งในลูกอมและหมากฝรั่งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานอยู่บ้าง โดยสีอินทรีย์สังเคราะห์เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งใช้แต่งสีอาหารให้มีสีสันที่น่ารับประทานมากขึ้น ทั้งนี้หากร่างกายได้รับในปริมาณมากหรือบ่อยครั้งย่อมก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น สีจะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ทำให้น้ำย่อยอาหารออกมาไม่สะดวก อาหารย่อยยาก เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และขัดขวางการดูดซึมอาหาร ทำให้ท้องเดิน น้ำหนักลด อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรืออาจมีอาการของตับ ไตอักเสบ และสีอินทรีย์สังเคราะห์บางชนิดอาจก่อให้เกิดมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆ และอันตรายจากสารอื่นที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร เช่น โลหะหนัก นอกจากนี้ส่วนประกอบหลักของลูกอม คือ น้ำตาล หากบริโภคมากเกินไปโดยเฉพาะเด็กอาจทำให้ฟันผุหรือเป็นโรคอ้วนได้
"การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ลูกอมและหมากฝรั่งควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ว่าอยู่ในภาชนะบรรจุปิดสนิท ไม่มีร่องรอยถูกเจาะหรือฉีกขาด มีฉลากแจ้งส่วนประกอบและเลขสารบบอาหารแสดงว่าผ่านการขึ้นทะเบียน อย. แล้ว เก็บไว้ในที่เย็นไม่อับชื้น ปิดสนิทป้องกันมดแมลง และไม่ควรซื้อลูกอมหรือหมากฝรั่งที่มีสีฉูดฉาดอาจมีการใช้สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร หรือใช้สีที่มีส่วนผสมหรือปนเปื้อนโลหะหนักเคลือบผิวเพื่อให้ดูน่ารับประทาน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะดำเนินการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค" นายแพทย์ศุภกิจ กล่าว