พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และยามเย็นเอาเป็นว่าคุ้มค่ากับที่ได้เดินขึ้นมาอย่างแน่นอน
สำหรับอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในตัวเมืองคืออาคารพิพิธภัณฑ์เมืองเลย แต่เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดเป็นอาคารไม้ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาประเพณี ความเชื่อ และสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเลย รวมถึงการจัดแสดงพระเก้าอี้ และการเสด็จประพาสจังหวัดเลยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้า-พระบรมราชินีนาถฯ
ประเพณีอันเลื่องชื่อสำหรับชาวจังหวัดเลย นั่นก็คือ "เทศกาลผีตาโขน" หรือที่ชาวด่านซ้ายเรียกกันว่า "งานบุญหลวง"ซึ่งจริงๆแล้วที่นี่จะจัดขึ้นทุกๆปีตั้งแต่ช่วงเดือน มิถุนายน หรือเดือนกรกฎาคมในช่วงสองเดือนนี้ แต่ถ้าเกิดว่าใครไม่มีโอกาสได้มาในช่วงสองเดือนนี้ที่อำเภอด่านซ้าย ก็มี "พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน" ไว้บอกเรื่องเล่าความเป็นมาของผีตาโขนที่ "วัดโพนชัย" โดยประเพณีผีตาโขนเดิมมีชื่อเรียกว่า "ผีตามคน" เป็นประเพณีที่ได้รับอิทธิพลมาจากมหาเวสสันดรชาดกในทางพระพุทธศาสนาที่กล่าวถึงพระเวสสันดรและพระนางมัทรี ที่จะออกเดินทางจากป่าสู่เมืองหลวงเหล่าบรรดาสัตว์ในป่ารวมถึงภูติผีปีศาจหลายตนที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้นจึงได้ออกมาส่งเสด็จโดยแห่แหน แฝงตัวตนมากับชาวบ้านด้วยความอาลัยรัก
อีกหนึ่งสถานที่ ที่มีความงดงามด้านสถาปัตยกรรมในอำเภอด่านซ้าย นั่นก็คือวัดเนรมิตรวิปัสนา เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินในตัวเมืองด่านซ้ายโดยหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ เจ้าอาวาสรูปแรก เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น จุดเด่นของวัดแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นทั้งเจดีย์ รวมไปถึงอุโบสถ ล้วนสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง พระอุโบสถขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ที่เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบโดยพระและเณร ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งเป็นองค์พระประธานของวัด
และยังมีต้นไม้ที่สำคัญทางพุทธศาสนา นั่นก็คือ "ต้นสาละ"ต้นไม้ที่ พระพุทธเจ้าทรงประสูติ เป็นสถานที่ที่ใครได้มาด่านซ้าย
ก็อย่าลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชมกัน
พระธาตุสีสองรักเป็นปูชนียสถานที่สร้างจากความร่วมมือกัน ระหว่าง อาณาจักรอยุธยาและอาณาจักรล้านช้างในลาว เพื่อต่อต้านกองทัพพม่าที่เข้ามารุกรานดินแดนทั้งสองและยังถือเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่มีการตั้งสัตยาอธิฐานว่า จะไม่มีการล่วง
เขตแดนซึ่งกันและกัน ซึ่งปัจจุบันพระธาตุศรีสองรักจึงเป็นที่เคารพบูชาของทั้งชาวไทยและชาวลาวมายาวนานกว่าสี่ร้อยปี
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมากราบไหว้สักการะพระธาตุศรีสองรักก็มีข้อปฏิบัติเกี่ยวกับองค์พระธาตุคือไม่ควรนำสิ่งของ หรือดอกไม้สีแดงขึ้นมาบูชาและไม่ควรแต่งกายด้วยชุดที่มีสีแดง เพราะมีความเชื่อว่า สีแดงเป็นสีแห่งเลือดและความรุนแรงซึ่งตรงกันข้ามกับจุดประสงค์หลักของการสร้างพระธาตุศรีสองรักแห่งนี้ที่ต้องการสร้างให้มีความรักและความสามัคคีกันของทั้งสองอาณาจักร
เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เสน่ห์ของที่นี่ก็คงจะไม่พ้นวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี
แบบเรียบง่าย พอเพียงและมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบันจึงเป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า"เชียงคาน" คือเมืองในอุดมคติและที่เที่ยวยอดฮิตเมื่อมาถึงเชียงคานเพราะอยู่ใกล้จากตัวเมืองเชียงคานมาเพียงเล็กน้อย ก็ต้องมาที่ "แก่งคุดคู้"จากตรงนี้เราก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของลำน้ำ เทือกเขา และก็ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
คงเป็นเพราะลำน้ำที่ทอดตัวยาวขนานไปกับสายน้ำโขงที่ไหลผ่านโขดหินเล็กใหญ่คล้ายๆ กับสันเขื่อนที่วางขวางลำน้ำเป็นแอ่งๆ ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า"แก่งคุดคู้" นั่นเองพอตกค่ำ ก็ถึงเวลาเดินช๊อปปิ้ง บนถนนคนเดินเชียงคาน สุดคลาสสิค ที่นี่ก็มีทั้งสินค้าแฮนด์เมด ของที่ระลึก รวมไปถึงของกินอร่อยๆ
อีกหนึ่งเสน่ห์ของความเป็นเชียงคานที่ทำให้อำเภอเล็กๆ แห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น ก็คือการตื่นมาใส่บาตรเข้าเหนียวกัน
ในตอนเช้าเป็นประเพณีที่คนเชียงคานได้ยึดถือและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมายาวนานแล้วร่วมร้อยปี ชาวเชียงคานเขาจะไม่นิยมใส่อาหารในบาตรกันจะใส่ก็แต่ข้าวเหนียว ขนมบ้าง หรือกล้วย ส่วนอาหารนั้นเขาก็ทำไปถวายกันที่วัดอีกที
เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมใครหลายๆคนมาเที่ยวเชียงคานต้องมาปั่นจักรยานกันเพราะทำให้เรารู้จักและสัมผัสกับเสน่ห์ของเชียงคานได้มากยิ่งขึ้นการปั่นจักรยานไปตามตรอกซอกซอย ชมบ้านไม้เก่าๆ โฮมสเตย์ หรือร้านค้าร้านกาแฟเก๋ๆ
แถมได้ทักทายยิ้มแย้มทำความรู้จักกับชาวบ้านเลยทำให้เชียงคาน มีเสน่ห์แตกต่างไปจากที่อื่นๆ
มาจังหวัดเลย ปาล์มได้มีโอกาสตามรอยพระบาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาที่ฝายของโครงการชลประทานเลยโดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จเปิดฝายแห่งนี้ นับเป็นฝายแห่งแรกที่กรมชลประทานสร้างขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ต่อมาทางกรมชลประทานก็ได้สร้าง"อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน" ที่นอกจากจะสร้างขึ้นเพื่อการชลประทาน เพื่อการเกษตรแล้ว
ก็ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเลยหลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองเลยโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวป่าเขา ชมทะเลหมอกสัมผัสอากาศเย็นสบายกัน แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบการล่องแพเล่นน้ำพร้อมไปกับการชื่นชมธรรมชาติป่าเขาก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวที่ "อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน"
"อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน" ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเลยบรรยากาศที่นี่ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของป่าไผ่และทิวเขาที่โอบล้อมป่างเก็บน้ำ นักท่องเที่ยวก็มักจะใช้เวลาในวันพักผ่อนมาล่องแพ พร้อมทานอาหารท่ามกลางวิวทิวทัศน์และบรรยากาศที่สวยงาม ร่มรื่น เย็นสบายเหมาะกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่สุด
ถ้าช่วงเช้าๆให้มาล่องแพชมทิวทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง เพื่อชมวิวทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำช่วงพระอาทิตย์ขึ้นสำหรับถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นนั้นก็ให้ล่องแพมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน บริเวณแถวสันเขื่อนของอ่างเก็บน้ำจะเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
จังหวัดเลยมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอยู่มากมายการที่ได้มาสัมผัสเมืองเลยในครั้งนี้ มีสิ่งดีๆ ให้ได้ซึมซับกลับมามากมาย เพราะมีโอกาสได้สัมผัสวิถีชิวิตแบบสโลว์ไลฟ์ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบตัว รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีแบบท้องถิ่น
ถ้าใครได้มาสัมผัส รับรองต้องรักเลยแน่นอน