เริ่มต้นวันกันที่นี่เลย ตลาดหัวตะเข้ เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สมัยก่อนเป็นตลาดน้ำที่ชาวบ้านพายเรือมาค้าขายกันคึกคัก แต่ปัจจุบันค่อนข้างเงียบเหงาลงไปเยอะ ทางสำนักงานเขตจึงจัดกิจกรรมเที่ยวตลาดริมน้ำ เพื่อดูวิถีชีวิตของคนในชุมชนหัวตะเข้
ตลาดหัวตะเข้เป็นตลาดไม้ขนาดไม่ใหญ่ ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ ทั้งสองฝั่งคลอง ถ้าใครสนใจมาเยี่ยมชมวิถีชีวิตริมน้ำของชาวหัวตะเข้ ที่นี่เป็นที่นึงที่อนุรักษ์ความดั้งเดิมนั้นไว้ได้อย่างดี ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ร้านตัดผมโบราณ เข้ามาในซอยลาดกระบัง 17 มีที่จอดรถให้บริการ หรือจะเดินจากปากซอยก็ไม่ไกลค่ะ ตลาดนี้เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ 10:00-16:00 น.
และถ้าใครชอบนั่งจิบกาแฟชิวๆริมน้ำ ต้องแวะสองร้านนี้เลย ณ ลาดกระบัง และ ร้านสี่แยกหัวตะเข้ ซึ่งร้านนี้มี Guest House ให้บริการ ที่ลูกค้าเกือบทั้งหมดก็เป็นชาวต่างชาติ ที่หลงใหลวิถีชีวิตแห่งนี้
เมนูอาหารก็ค่อนข้างมีให้เลือกหลายหลาย กาแฟรสชาติกลมกล่อม ไม่แพ้ร้านดังๆในเมืองเลย
ใครที่หลงสเน่ห์ย่านนี้เข้าแล้ว สามารถเข้าไปดูรายละเอียด และบรรยากาศเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/LoveHuatakhe/?fref=ts
เสร็จแล้วก็มาเดินชมธรรมชาติกันที่ สวนพระนคร เป็นสวนสาธารณะริมถนนลาดกระบัง ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ มีความรมรื่นเป็นธรรมชาติมาก ด้วยความที่คนมาใช้บริการที่นี่กันน้อย ทำให้เหล่าสัตว์ในที่นี่ ค่อนข้างอิสระในการใช้ชีวิต ไม่กลัวคนแม้แต่น้อย จนเราสามารถถ่ายรูปนก กระรอก หรือแม้แต่ตะกวด ได้อย่างใกล้ชิด
อีกมุมที่น่าถ่ายรูปคือ มุมสวนไม้ดัด เป็นรูปสัตว์ต่างๆมากมายหลายชนิด
ถ้าใครมาช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม จะได้ภายสวยๆจากชมพูพันธ์ทิพย์ ที่บ้านสะพรั่งในสวน เพื่อนๆที่มาเที่ยวแถวนี้ อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะค่ะ นอกจากเดินเล่น ถ่ายรูป ให้อาหารปลาแล้ว ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำ ให้บริการในราคากันเองด้วยค่ะ สวนพระนครเปิดทุกวัน 05:00-21:00 น. โทร. 02-3269999
อิ่มหนำกับธรรมชาติ และวิถีชีวิตกันแล้ว ก็ได้เวลาฝากท้องกับร้านอร่อยย่านนี้ พั้นช์ เลยจากสวนพระนครมาไม่ไกล ริมถนน และจอดรถได้ในซอยลาดกระบัง 50
พั้นช์เป็นร้านอาหารไทยสไตล์คลาสสิค ในราคาเป็นมิตรภาพ แต่รสชาติระดับภัตตาคาร
เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็แวะไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยชื่อดังของที่นี่กัน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ ที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
บรรยากาศของที่นี่เป็นธรรมชาติสุดๆ มีต้นไม้ใหญ่ และแหล่งน้ำลำธารหลายจุด แต่ละคณะมีพื้นที่ของตัวเองค่อนข้างมาก มีลานกิจกรรมหลายแห่ง
จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือ เป็นสถาบันที่มีสถานีรถไฟตัดผ่าน สถานีพระจอมเกล้า เป็นอีกจุดที่น่าถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ที่ชมพูพันธ์ทิพย์บานสะพรั่ง เช่นเดียวกับสวนพระนคร เราจะได้เห็นรถไฟวิ่งผ่านซากุระเมืองไทยพริ้วไหว อย่างสวยงามทีเดียว
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูป ย่อยอาหารเป็นที่เรียบร้อย เราก็ไปทำบุญกันซักหน่อยที่ วัดกระทุ่มเสือปลา ระหว่างทางผ่านอาคารสไตล์ร่วมสมัยที่หนึ่ง จึงแวะลงไปดู ตลาดบกเวิ้งพระคร
น่าเสียดายที่ตลาดแห่งนี้ถูกปิดไปแล้ว แต่อาคารสถานที่ยังอยู่ ถ้าเพื่อนอยากได้บรรยากาศแนววินเทจแบบนี้ ก็แวะมาถ่ายรูปเล่นกันได้นะค่ะ
ก่อนเข้าวัดก็แวะซื้อปลากันที่ตลาดสด 999 และก็ถึงแล้ว วัดกระทุ่มเสือปลา จากปากซอยอ่อนนุช 67 เข้ามาประมาณสามร้อยเมตร
วัดนี้ได้ถูกบันทึกให้เป็น อันซีนบางกอก เนื่องจากมีหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปจำลองแบบจากพระพุทธชินราชสมัยสุโขทัย จีวรประดับด้วยเพชรรัสเซียนับพันเม็ดประดิษฐานอยู่ ในวัดแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชมถึงสองแห่ง คือพิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้งของพระเกจิชื่อดังในประเทศไทยหลายองค์ และพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป 80 ปาง
นอกจากความรู้ ความงดงามของพระพุทธรูปต่างๆแล้ว บรรยากาศริมน้ำของวัดนี้ก็เป็นแหล่งปลาชุกชุมที่นึง ที่เด็กๆมักจะมาสนุกกับการให้อาหารปลา (ทางวัดมีเตรียมไว้ให้) และยังได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
วัดนี้มีกิจกรรมการทำบุญค่อนข้างครบครัน ทั้งถวายสังฆทาน ไถ่ชีวิตโคกระบือ ทำบุญโลงศพ ข้าวสาร และสำหรับคนเกิดปีชง ที่นี่ยังมีบริการปัดตัวแก้เคราะห์ต่อหน้าเทพไท้ส่วยเอี๊ยะ เนื่องจากที่นี่คนไม่คับคั่ง จึงไม่ต้องกลัวจะปัดเคราะห์โดนกันอย่างแน่นอน
ก่อนหมดวัน ถ้าใครยังไม่อยากกลับบ้านก็แวะไปตากแอร์ ดูหนัง ทานอาหารอร่อยๆกันต่อได้ที่ เมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบระดับแห่งแรกในเอเชีย
ปิดท้าย ลาดกระบังยังมีที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิ วัดลานบุญ วัดสุทธาโภชน์ วัดสังฆราชา วัดพลมานีย์ วัดลาดกระบัง วัดอุทัยธรรมาราม วัดขุมทอง วัดศรีนครินทร์ สวนนกธรรมชาติ ฯลฯ
เที่ยวลาดกระบัง ไม่ไปไม่รู้ :)
ขอบคุณผู้ร่วมเดินทาง: บาส มือกีตาร์และนักร้องวง Earth & Universe